เปาโลกระตือรือร้นที่จะประกาศในกรุงโรม รม 1.1 เปาโล 1/4ู้รับใช้ของ3/4ระเยซูคริสต์ 1/4ู้ซึ่ง3/4ระองค์*รงเรียกให้เป็นอัครสาวก และได้ถูกแยกตั้งไว้สำหรับข่าวประเสริฐของ3/4ระเจ้า รม 1.2 (คือข่าวประเสริฐ*ี่3/4ระองค์ได้*รงสัญญาไว้ล่วงหน้าโดย3/4วกศาสดา3/4ยากรณ์ของ3/4ระองค์ใน3/4ระคัมภีร์อันบริสุทธิ์) รม 1.3 เกี่ยวกับ3/4ระบุตรของ3/4ระองค์ คือ3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา 1/4ู้บังเกิดในเชื้อสายของดาวิด1/2่ายเนื้อหนัง รม 1.4 แต่1/2่าย3/4ระวิญญาณแห่งความบริสุ*ธิ์นั้นบ่งไว้ด้วยฤ*ธานุภา3/4 คือโดยการเป็นขึ้นมาจากความตายว่า เป็น3/4ระบุตรของ3/4ระเจ้า รม 1.5 โดย*าง3/4ระองค์นั้น3/4วกข้า3/4เจ้าได้รับ3/4ระคุณและหน้า*ี่เป็นอัครสาวก เ3/4ื่อเห็นแก่3/4ระนามของ3/4ระองค์ ให้ชนชาติต่างๆเชื่อฟังตามความเชื่อนั้น รม 1.6 รวม*ั้ง3/4วก*่าน*ี่3/4ระเจ้า*รงเรียกให้เป็นคนของ3/4ระเยซูคริสต์ด้วย รม 1.7 เรียน บรรดา*่าน*ี่อยู่ในกรุงโรม 1/4ู้ซึ่ง3/4ระเจ้า*รงรักและ*รงเรียกให้เป็นวิสุ*ธิชน ขอ3/4ระคุณและสันติสุขซึ่งมาจาก3/4ระเจ้า3/4ระบิดาของเรา*ั้งหลาย และจาก3/4ระเยซูคริสต์เจ้า จงดำรงอยู่กับ3/4วกท่านเถิด รม 1.8 ประการแรก ข้า3/4เจ้าขอขอบ3/4ระคุณ3/4ระเจ้าของข้า3/4เจ้าโดย*าง3/4ระเยซูคริสต์เหตุด้วย*่าน*ั้งหลาย เ3/4ราะว่าความเชื่อของ3/4วกท่านเลื่องลือไปทั่วโลก รม 1.9 เ3/4ราะ3/4ระเจ้า1/4ู้ซึ่งข้า3/4เจ้าได้รับใช้ด้วยชีวิตจิตใจของข้า3/4เจ้าในข่าวประเสริฐแห่ง3/4ระบุตรของ3/4ระองค์นั้น *รงเป็น3/4ยานของข้า3/4เจ้าว่า เมื่อข้า3/4เจ้าอธิษฐานนั้น ข้า3/4เจ้าระลึกถึงท่านทั้งหลายเสมอไม่ว่างเว้น รม 1.10 ข้า3/4เจ้าทูลขอว่า ถ้าเป็น*ี่3/4อ3/4ระ*ัย3/4ระเจ้าแล้วให้ข้า3/4เจ้าได้มีโอกาสไปเยี่ยมท่านทั้งหลาย โดยอย่างหนึ่งอย่างใดในที่สุดนี้ รม 1.11 เ3/4ราะข้า3/4เจ้าปรารถนา*ี่จะได้3/4บ*่าน*ั้งหลาย เ3/4ื่อจะได้นำของประ*าน1/2่ายจิตวิญญาณมาให้แก่*่านบ้าง เ3/4ื่อเสริมกำลังท่านทั้งหลาย รม 1.12 คือเ3/4ื่อข้า3/4เจ้าและ*่าน*ั้งหลายจะได้หนุนใจซึ่งกันและกัน โดยความเชื่อของเรา*ั้งสอ1/2่าย รม 1.13 3/4ี่น้อง*ั้งหลาย บัดนี้ข้า3/4เจ้าอยากให้*่าน*ั้งหลาย*ราบว่า ข้า3/4เจ้าได้ตั้งใจไว้หลายครั้งแล้วว่าจะมาหา*่าน เ3/4ื่อข้า3/4เจ้าจะได้เก็บเกี่ยว1/4ลในหมู่3/4วกท่านด้วย เช่นเดียวกับในหมู่ชนชาติอื่นๆ (แต่จนบัดนี้ก็ยังมีเหตุขัดข้องอยู่) รม 1.14 ข้า3/4เจ้าเป็นหนี้*ั้ง3/4วกกรีกและ3/4วกชาวป่าด้วย เป็นหนี้*ั้ง3/4วกนักปราชญ์และคนเขลาด้วย รม 1.15 (c)ะนั้นข้า3/4เจ้าก็เต็มใจ3/4ร้อมที่จะประกาศข่าวประเสริฐแก่ท่านทั้งหลายที่อยู่ในกรุงโรมด้วย รม 1.16 ด้วยว่าข้า3/4เจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐของ3/4ระคริสต์ เ3/4ราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤ*ธิ์เดชของ3/4ระเจ้า เ3/4ื่อให้*ุกคน*ี่เชื่อได้รับความรอด 3/4วกยิวก่อน และ3/4วกกรีกด้วย รม 1.17 เ3/4ราะว่าในข่าวประเสริฐนั้นความชอบธรรมของ3/4ระเจ้าก็ได้แสดงออก โดยเริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ ตามที่มีเขียนไว้แล้วว่า `คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ' คนที่ได้รับความสว่างได้หันกลับไปสู่ความมืด รม 1.18 เ3/4ราะว่า 3/4ระเจ้า*รงสำแดง3/4ระ3/4ิโรธของ3/4ระองค์จากสวรรค์ต่อความอธรรมและความไม่ชอบธรรมทั้งมวลของมนุษย์ ที่เอาความไม่ชอบธรรมนั้นขัดขวางความจริง จักรวาล3/4ิสูจน์ว่ามี3/4ระ1/4ู้*รงสร้าง*ี่*รง3/4ระชนม์อยู่ รม 1.19 เหตุว่าเ*่า*ี่จะรู้จัก3/4ระเจ้าได้ก็แจ้งอยู่กับใจเขา*ั้งหลาย เ3/4ราะว่า3/4ระเจ้าได้ทรงโปรดสำแดงแก่เขาแล้ว รม 1.20 ตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาแล้ว สภา3/4*ี่ไม่ปรากฏของ3/4ระองค์นั้น คือฤ*ธานุภา3/4อันนิรันดร์และเ*วสภา3/4ของ3/4ระเจ้า ก็ได้ปรากฏชัดในสรร3/4สิ่ง*ี่3/4ระองค์ได้*รงสร้าง (c)ะนั้นเขาทั้งหลายจึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย รม 1.21 เ3/4ราะถึงแม้ว่าเขา*ั้งหลายได้รู้จัก3/4ระเจ้าแล้ว เขาก็มิได้ถวาย3/4ระเกียรติแด่3/4ระองค์ให้สมกับ*ี่*รงเป็น3/4ระเจ้า หรือหาได้ขอบ3/4ระคุณไม่ แต่เขากลับคิดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ และจิตใจโง่เขลาของเขาก็มืดมัวไป ความเข้าใจได้กลับกลายเป็นมืดไป *างของ3/4ระเจ้าได้เสียไป รม 1.22 เขาอ้างตัวว่าเป็นคนมีปัญญา เขาจึงกลายเป็นคนโง่เขลาไป รม 1.23 และเขาได้เอาสง่าราศีของ3/4ระเจ้า1/4ู้เป็นอมตะ มาแลกกับรูปมนุษย์ที่ต้องตายหรือรูปนก รูปสัตว์จตุบาท และรูปสัตว์เลื้อยคลาน 3/4ระเจ้า*รงมอบมนุษย์ไว้กับความบาป การนับถือรูปเคาร3/4 รักร่วมเ3/4ศ และความเลวทราม รม 1.24 เหตุ(c)ะนั้น 3/4ระเจ้าจึง*รงปล่อยเขาให้ประ3/4ฤติอุลามกตามราคะตัณหาในใจของเขา ให้เขากระทำสิ่งซึ่งน่าอัปยศทางกายต่อกัน รม 1.25 เ3/4ราะว่าเขาได้เอาความจริงเรื่อง3/4ระเจ้ามาแลกกับความเ*็จ และได้นมัสการและปรนนิบัติสิ่ง*ี่3/4ระองค์ได้*รงสร้างไว้แ*น3/4ระองค์1/4ู้*รงสร้าง 1/4ู้สมจะได้รับความสรรเสริญเป็นนิตย์ เอเมน รม 1.26 เ3/4ราะเหตุนี้3/4ระเจ้าจึง*รงปล่อยให้เขามีราคะตัณหาอันน่าอัปยศ แม้แต่3/4วก1/4ู้หญิงของเขาก็เปลี่ยนจากการสัม3/4ันธ์ตามธรรมชาติ ให้1/4ิดธรรมชาติไป รม 1.27 1/2่าย1/4ู้ชายก็เลิกการสัม3/4ันธ์กับ1/4ู้หญิงให้ถูกตามธรรมชาติเช่นกัน และเร่าร้อนด้วยไฟแห่งราคะตัณหา*ี่มีต่อกัน 1/4ู้ชายกับ1/4ู้ชายด้วยกันประกอบกิจอันชั่วช้าอย่างน่าละอาย เขาจึงได้รับ1/4ลกรรมอันสมควรแก่ความ1/4ิดของเขา รม 1.28 และเ3/4ราะเขาไม่เห็นชอบ*ี่จะรู้จัก3/4ระเจ้า 3/4ระเจ้าจึง*รงปล่อยให้เขามีใจเลว*รามและประ3/4ฤติสิ่งที่ไม่เหมาะสม รม 1.29 3/4วกเขาเต็มไปด้วยสรร3/4การอธรรม การล่วงประเวณี ความชั่วร้าย ความโลภ ความมุ่งร้าย เต็มไปด้วยความอิจ(c)าริษยา การฆ่าฟัน การวิวา* การล่อลวง การคิดร้าย 3/4ูดนินทา รม 1.30 ส่อเสียด เกลียดชัง3/4ระเจ้า หยาบคาย จองหอง อวดตัว ริทำชั่วอย่างใหม่ ไม่เชื่อฟังบิดามารดา รม 1.31 อปัญญา ไม่รักษาคำสัญญา ไม่มีความรักกัน ไม่ยอมคืนดีกัน ปราศจากความเมตตา รม 1.32 แม้เขาจะรู้การ3/4ิ3/4ากษาของ3/4ระเจ้า*ี่ว่าคน*ั้งปวง*ี่ประ3/4ฤติเช่นนั้นสมควรจะตาย เขาก็ไม่เ3/4ียงประ3/4ฤติเ*่านั้น แต่ยังเห็นดีกับคนอื่น*ี่ประ3/4ฤติเช่นนั้นด้วย 3/4ระเจ้าจะ*รง3/4ิ3/4ากษาเราทุกคน รม 2.1 เหตุ(c)ะนั้น โอ มนุษย์เอ๋ย ไม่ว่า*่านจะเป็นใคร เมื่อ*่านกล่าวโ*ษ1/4ู้อื่นนั้น *่านไม่มีข้อแก้ตัวเลย เ3/4ราะเมื่อ*่านกล่าวโ*ษ1/4ู้อื่น ท่านก็ได้กล่าวโทษตัวเองด้วย เ3/4ราะว่า*่าน*ี่กล่าวโ*ษเขาก็ยังประ3/4ฤติอยู่อย่างเดียวกับเขา รม 2.2 แต่เรารู้แน่ว่าการ*ี่3/4ระเจ้า*รง3/4ิ3/4ากษาลงโ*ษคน*ี่ประ3/4ฤติเช่นนั้นก็เป็นตามความจริง รม 2.3 โอ มนุษย์เอ๋ย *่าน*ี่กล่าวโ*ษคน*ี่ประ3/4ฤติเช่นนั้น และ*่านเองยังประ3/4ฤติเช่นเดียวกับเขา ท่านคิดหรือว่า*่านจะ3/4้นจากการ3/4ิ3/4ากษาลงโ*ษของ3/4ระเจ้าได้ รม 2.4 หรือว่า*่านประมา*3/4ระกรุณาคุณอันอุดมและความอดกลั้น3/4ระ*ัย และความอด*นของ3/4ระองค์ *่านไม่รู้หรือว่า 3/4ระกรุณาคุณของ3/4ระเจ้านั้นมุ่งที่จะชักนำท่านให้กลับใจใหม่ รม 2.5 แต่เ3/4ราะท่านใจแข็งกระด้างไม่ยอมกลับใจ ท่านจึงส่ำสม3/4ระ3/4ิโรธให้แก่ตัวเองในวันแห่ง3/4ระ3/4ิโรธนั้น ซึ่ง3/4ระเจ้าจะ*รงสำแดงการ3/4ิ3/4ากษาลงโทษที่เที่ยงธรรมให้ประจักษ์ 1/4ู้ที่รักความชอบธรรม รม 2.6 3/4ระองค์จะทรงประทานแก่ทุกคนตามควรแก่การกระทำของเขา รม 2.7 สำหรับคน*ี่3/4ากเ3/4ียรทำความดี แสวงหาสง่าราศี เกียรติ และความเป็นอมตะนั้น 3/4ระองค์จะประทานชีวิตนิรันดร์ให้ รม 2.8 แต่3/4ระองค์จะ*รง3/4ระ3/4ิโรธ และลง3/4ระอาชญาแก่คนที่มักยกตนข่มท่านและไม่เชื่อฟังความจริง แต่เชื่อฟังความอธรรม รม 2.9 ความ*ุกข์เว*นาจะเกิดแก่จิตใจ*ุกคน*ี่ประ3/4ฤติชั่ว แก่3/4วกยิวก่อนและแก่3/4วกต่างชาติด้วย รม 2.10 แต่สง่าราศี เกียรติ และสันติสุขจะเกิดมีแก่*ุกคน*ี่ประ3/4ฤติดี แก่3/4วกยิวก่อนและแก่3/4วกต่างชาติด้วย รม 2.11 เ3/4ราะว่า3/4ระเจ้าไม่ได้*รงเห็นแก่หน้า1/4ู้ใดเลย รม 2.12 เ3/4ราะคน*ั้งหลาย*ี่ไม่มี3/4ระบัญญัติและ*ำบาปจะต้อง3/4ินาศโดยไม่อ้าง3/4ระบัญญัติ และคน*ั้งหลาย*ี่มี3/4ระบัญญัติและทำบาปก็จะต้องถูก3/4ิ3/4ากษาตาม3/4ระบัญญัติ รม 2.13 (เ3/4ราะว่าคน*ี่เ3/4ียงแต่ฟัง3/4ระบัญญัติเ*่านั้น หาใช่1/4ู้ชอบธรรมจำเ3/4าะ3/4ระ3/4ักตร์3/4ระเจ้าไม่ แต่คน*ี่ประ3/4ฤติตาม3/4ระบัญญัติต่างหากเป็น1/4ู้ชอบธรรม รม 2.14 เ3/4ราะเมื่อชนต่างชาติซึ่งไม่มี3/4ระบัญญัติได้ประ3/4ฤติตาม3/4ระบัญญัติโดยปกติวิสัย คนเหล่านั้นแม้ไม่มี3/4ระบัญญัติตัวของตัวก็เป็นบัญญัติแก่ตัวเอง รม 2.15 คือแสดงให้เห็นหลักความประ3/4ฤติ*ี่เป็นตาม3/4ระบัญญัตินั้นมีจารึกอยู่ในจิตใจของเขา และใจสำนึก1/4ิดชอบก็เป็น3/4ยานของเขาด้วย ความคิดขัดแย้งต่างๆของเขานั้นแหละ จะกล่าวโทษตัวหรืออาจจะแก้ตัวให้เขา) รม 2.16 ในวัน*ี่3/4ระเจ้าจะ*รง3/4ิ3/4ากษาความลับของมนุษย์โดย3/4ระเยซูคริสต์ *ั้งนี้ตามข่าวประเสริฐ*ี่ข้า3/4เจ้าได้ประกาศนั้น 3/4ิธีเข้าสุหนัตและความชอบธรรมแต่ภายนอก รม 2.17 ดูเถิด *่านเรียกตัวเองว่า ยิว และ3/4ึ่ง3/4ระบัญญัติและยก3/4ระเจ้าขึ้นอวด รม 2.18 และว่า*่านรู้จัก3/4ระ*ัยของ3/4ระองค์ และเห็นชอบในสิ่ง*ี่ประเสริฐ เ3/4ราะว่า*่านได้เรียนรู้ใน3/4ระบัญญัติ รม 2.19 และ*่านมั่นใจว่า *่านเป็น1/4ู้จูงคนตาบอด เป็นความสว่างให้แก่คนทั้งหลายที่อยู่ในความมืด รม 2.20 เป็น1/4ู้สอนคนโง่ เป็นครูของเด็ก เ3/4ราะ*่านมีแบบอย่างของความรู้และความจริงใน3/4ระบัญญัตินั้น รม 2.21 (c)ะนั้น*่านซึ่งเป็น1/4ู้สอนคนอื่นจะไม่สอนตัวเองหรือ เมื่อ*่านเ*ศนาว่าไม่ควรลัก*รั3/4ย์ ตัวท่านเองลักหรือเปล่า รม 2.22 *่าน1/4ู้*ี่สอนว่าไม่ควรล่วงประเวณี ตัว*่านเองล่วงประเวณีหรือเปล่า *่าน1/4ู้รังเกียจรูปเคาร3/4 ตัวท่านเองปล้นวิหารหรือเปล่า รม 2.23 *่าน1/4ู้โอ้อวดใน3/4ระบัญญัติ ตัว*่านเองยังลบหลู่3/4ระเจ้าด้วยการประ3/4ฤติ1/4ิด3/4ระบัญญัติหรือเปล่า รม 2.24 เ3/4ราะมีเขียนไว้แล้วว่า `คนต่างชาติ3/4ูดหมิ่นประมา*ต่อ3/4ระนามของ3/4ระเจ้าก็เ3/4ราะท่านทั้งหลาย' รม 2.25 ถ้า*่านประ3/4ฤติตาม3/4ระบัญญัติ 3/4ิธีเข้าสุหนัตก็เป็นประโยชน์จริง แต่ถ้า*่านละเมิด3/4ระบัญญัติ การที่ท่านเข้าสุหนัตนั้นก็เหมือนกับว่าไม่ได้เข้าเลย รม 2.26 เหตุ(c)ะนั้น ถ้า1/4ู้*ี่ไม่ได้เข้าสุหนัตยังประ3/4ฤติตามความชอบธรรมแห่ง3/4ระบัญญัติแล้ว การที่เขาไม่ได้เข้าสุหนัตนั้นจะถือเหมือนกับว่าเขาได้เข้าสุหนัตแล้วไม่ใช่หรือ รม 2.27 และคน*ั้งหลาย*ี่ไม่เข้าสุหนัตซึ่งเป็นตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ประ3/4ฤติตาม3/4ระบัญญัติ เขาจะปรับโ*ษ*่าน1/4ู้มีประมวล3/4ระบัญญัติและได้เข้าสุหนัตแล้ว แต่ยังละเมิด3/4ระบัญญัตินั้น รม 2.28 เ3/4ราะว่ายิวแท้ มิใช่คนที่เป็นยิวแต่ภายนอกเท่านั้น และการเข้าสุหนัตแท้ก็ไม่ใช่การเข้าสุหนัตซึ่งปรากฏที่เนื้อหนังเท่านั้น รม 2.29 คน*ี่เป็นยิวแ*้ คือคน*ี่เป็นยิวภายใน และการเข้าสุหนัตแ*้นั้นเป็นเรื่องของจิตใจตามจิตวิญญาณ มิใช่ตามตัวบ*บัญญัติ คนอย่างนั้น3/4ระเจ้าสรรเสริญ มนุษย์ไม่สรรเสริญ 3/4ระเจ้าได้*รงโปรดประ*าน3/4ระ3/4รอัน3/4ิเศษแก่3/4วกยิว รม 3.1 ถ้าเช่นนั้น 3/4วกยิวจะได้เปรียบคนอื่นอย่างไร และการเข้าสุหนัตนั้นจะมีประโยชน์อะไร รม 3.2 มีประโยชน์มากใน*ุกสถาน เป็นต้นว่า3/4วกยิวได้เป็น1/4ู้รับมอบให้รักษา3/4ระดำรัสของ3/4ระเจ้า รม 3.3 ถึงมีบางคนไม่เชื่อ ความไม่เชื่อของเขานั้นจะ*ำให้ความสัตย์ซื่อของ3/4ระเจ้าไร้ประโยชน์หรือ รม 3.4 หามิได้เลย ถึงแม้*ุกคนจะ3/4ูดมุสาก็ขอให้3/4ระเจ้า*รงสัตย์จริงเถิด ตาม*ี่มีเขียนไว้แล้วว่า `เ3/4ื่อ3/4ระองค์จะได้ปรากฏว่า *รงเป็น1/4ู้สัตย์ซื่อใน3/4ระดำรัส*ั้งหลายของ3/4ระองค์ และ*รงมีชัยเมื่อเขาวินิจ(c)ัย3/4ระองค์' รม 3.5 แต่ถ้าความอธรรมของเราเป็นเหตุให้เห็นความชอบธรรมของ3/4ระเจ้า เราจะว่าอย่างไร จะว่า3/4ระเจ้า*รงลงอาญาโดยไม่ยุติธรรมอย่างนั้นหรือ (ข้า3/4เจ้า3/4ูดอย่างมนุษย์) รม 3.6 ไม่เป็นเช่นนั้นเลย เ3/4ราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว3/4ระเจ้าจะ*รง3/4ิ3/4ากษาโลกได้อย่างไร รม 3.7 แต่ถ้าความจริงของ3/4ระเจ้าปรากฏมากยิ่งขึ้นเ3/4ราะเหตุความอสัตย์ของข้า3/4เจ้าเป็น*ี่ให้เกิดเกียรติยศแด่3/4ระองค์แล้ว *ำไมเขาจึงยังลงโ*ษข้า3/4เจ้าว่าเป็นคนบาป รม 3.8 และ*ำไมเราจึงไม่*ำความชั่วเ3/4ื่อความดีจะเกิดขึ้นจากความชั่วนั้นเล่า (ตามที่บางคนเล่าลือและนินทาหาว่าเราได้กล่าวอย่างนั้น) การลงโทษคนเช่นนั้นก็ยุติธรรมแล้ว ทุกคนเป็นคนบาป รม 3.9 ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไร 3/4วกเราจะได้เปรียบกว่า3/4วกเขาหรือ เปล่าเลย เ3/4ราะเราได้ชี้แจงให้เห็นแล้วว่า *ั้ง3/4วกยิวและ3/4วกต่างชาติต่างก็อยู่ใต้อำนาจของบาปทุกคน รม 3.10 ตาม*ี่มีเขียนไว้แล้วว่า `ไม่มี1/4ู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย รม 3.11 ไม่มีคน*ี่เข้าใจ ไม่มีคน*ี่แสวงหา3/4ระเจ้า รม 3.12 เขาทุกคนหลงทางไปหมด เขาทั้งปวงเป็นคนไร้ค่าเหมือนกันทั้งสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่ทำดี ไม่มีเลย รม 3.13 ลำคอของเขาคือหลุม1/2ังศ3/4*ี่เปิดอยู่ เขาใช้ลิ้นของเขาในการล่อลวง ภายใต้ริม1/2ีปากของเขามี3/4ิษของงูร้าย รม 3.14 ปากของเขาเต็มด้วยคำแช่งด่าและคำขมขื่น รม 3.15 เท้าของเขาว่องไวในการทำให้นองเลือด รม 3.16 ใน*างเดินของเขามีความ3/4ินาศและความทุกข์ รม 3.17 และเขาไม่รู้จักทางแห่งสันติสุข รม 3.18 ในแววตาของเขาไม่มีความเกรงกลัว3/4ระเจ้า' รม 3.19 เราจึงรู้แล้วว่า3/4ระบัญญัติทุกข้อที่ได้กล่าวนั้น ก็ได้กล่าวแก่คนเหล่านั้น*ี่อยู่ใต้3/4ระบัญญัติเ3/4ื่อปิดปาก*ุกคน และเ3/4ื่อให้มนุษย์*ุกคนในโลกอยู่ใต้การ3/4ิ3/4ากษาของ3/4ระเจ้า รม 3.20 เ3/4ราะว่าในสาย3/4ระเนตรของ3/4ระเจ้า ไม่มี1/4ู้หนึ่ง1/4ู้ใดเป็นคนชอบธรรมโดยการประ3/4ฤติตาม3/4ระบัญญัติได้ เ3/4ราะว่า3/4ระบัญญัตินั้นทำให้เรารู้จักบาปได้ ความชอบธรรมโดยความเชื่อ รม 3.21 แต่บัดนี้ได้ปรากฏแล้วว่าความชอบธรรมของ3/4ระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือ3/4ระบัญญัติ ซึ่ง3/4ระบัญญัติกับ3/4วกศาสดา3/4ยากรณ์เป็น3/4ยานอยู่ 3/4ระบัญญัติมั่นคงยิ่งขึ้นด้วยความชอบธรรมของ3/4ระคริสต์ รม 3.22 คือความชอบธรรมของ3/4ระเจ้าซึ่งทรงประ*านโดยความเชื่อใน3/4ระเยซูคริสต์สำหรับ*ุกคนและแก่*ุกคน*ี่เชื่อ เ3/4ราะว่าคนทั้งหลายไม่ต่างกัน รม 3.23 เหตุว่า*ุกคน*ำบาป และเสื่อมจากสง่าราศีของ3/4ระเจ้า รม 3.24 แต่3/4ระเจ้า*รง3/4ระกรุณาให้เราเป็น1/4ู้ชอบธรรม โดยไม่คิดมูลค่า โดย*ี่3/4ระเยซูคริสต์*รงไถ่เราให้3/4้นบาปแล้ว รม 3.25 3/4ระเจ้าได้*รงตั้ง3/4ระเยซูไว้ให้เป็น*ี่ลบล้าง3/4ระอาชญา โดยความเชื่อใน3/4ระโลหิตของ3/4ระองค์ เ3/4ื่อสำแดงให้เห็นความชอบธรรมของ3/4ระองค์ในการ*ี่3/4ระเจ้าได้*รงอดกลั้น3/4ระทัย และทรงยกบาปที่ได้ทำไปแล้วนั้น รม 3.26 และเ3/4ื่อจะสำแดงความชอบธรรมของ3/4ระองค์ในปัจจุบันนี้ว่า3/4ระองค์*รงเป็น1/4ู้ชอบธรรม และ*รงโปรดให้1/4ู้*ี่เชื่อใน3/4ระเยซูเป็น1/4ู้ชอบธรรมด้วย รม 3.27 เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราจะเอาอะไรมาอวด ก็หมดหน*าง จะอ้างหลักอะไรว่าหมดหน*าง อ้างหลักการประ3/4ฤติหรือ ไม่ใช่ แต่ต้องอ้างหลักของความเชื่อ รม 3.28 เหตุ(c)ะนั้นเราทั้งหลายสรุปได้ว่า คนหนึ่งคนใดจะเป็นคนชอบธรรมได้ก็โดยอาศัยความเชื่อนอกเหนือการประ3/4ฤติตาม3/4ระบัญญัติ รม 3.29 หรือว่า3/4ระเจ้านั้น*รงเป็น3/4ระเจ้าของยิว3/4วกเดียวเ*่านั้นหรือ 3/4ระองค์ไม่*รงเป็น3/4ระเจ้าของชนต่างชาติด้วยหรือ ถูกแล้ว3/4ระองค์*รงเป็น3/4ระเจ้าของชนต่างชาติด้วย รม 3.30 เ3/4ราะว่า3/4ระเจ้าเป็น3/4ระเจ้าองค์เดียว และ3/4ระองค์จะ*รงโปรดให้คน*ี่เข้าสุหนัตเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ และจะ*รงโปรดให้คน*ี่ไม่ได้เข้าสุหนัตเป็นคนชอบธรรมก็เ3/4ราะความเชื่อดุจกัน รม 3.31 ถ้าเช่นนั้นเราลบล้าง3/4ระบัญญัติด้วยความเชื่อหรือ เปล่าเลย เรากลับสนับสนุน3/4ระบัญญัติเสียอีก อับราฮัม1/4ู้เป็นแบบอย่าง รม 4.1 ถ้าเช่นนั้น เราจะว่าอับราฮัมบรร3/4บุรุษของเราได้ประโยชน์อะไรตามเนื้อหนังเล่า 3/4ระเจ้าไม่ทรงถือโทษบาปต่อคนชอบธรรม รม 4.2 ถ้าอับราฮัมเป็น1/4ู้ชอบธรรมโดยการประ3/4ฤติ *่านก็มี*าง*ี่จะอวดได้ แต่มิใช่จำเ3/4าะ3/4ระ3/4ักตร์3/4ระเจ้า รม 4.3 ด้วยว่า3/4ระคัมภีร์ว่าอย่างไร ก็ว่า `อับราฮัมได้เชื่อ3/4ระเจ้า และ3/4ระองค์ทรงนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน' รม 4.4 ดังนั้นคน*ี่อาศัยการประ3/4ฤติก็ไม่ถือว่าบำเหน็จ*ี่ได้นั้นเป็นเ3/4ราะ3/4ระคุณ แต่ถือว่า บำเหน็จนั้นเป็นค่าแรงของงานที่ได้ทำ รม 4.5 ส่วนคนที่มิได้อาศัยการประ3/4ฤติ แต่ได้เชื่อใน3/4ระองค์ 1/4ู้ทรงโปรดให้คนอธรรมเป็นคนชอบธรรมได้ ความเชื่อของคนนั้นต้องนับว่าเป็นความชอบธรรม รม 4.6 ดัง*ี่ดาวิดได้กล่าวถึงความสุขของคน*ี่3/4ระเจ้าได้*รงโปรดให้เป็นคนชอบธรรม โดยมิได้อาศัยการประ3/4ฤติ รม 4.7 ว่า `คน*ั้งหลายซึ่ง3/4ระเจ้าทรงโปรดยกความชั่วช้าของเขาแล้ว และ3/4ระเจ้าทรงกลบเกลื่อนบาปของเขาแล้วก็เป็นสุข รม 4.8 บุคคล*ี่องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้ามิได้ทรงถือโทษบาปของเขาก็เป็นสุข' ความรอดของอับราฮัมเป็นแบบอย่างแก่ทั้งชาวยิวและชาวต่างชาติ รม 4.9 ถ้าเช่นนั้นความสุขมีแก่คน*ี่เข้าสุหนัต3/4วกเดียวหรือ หรือว่ามีแก่3/4วก*ี่มิได้เข้าสุหนัตด้วย เ3/4ราะเรากล่าวว่า "เ3/4ราะความเชื่อนั้นเองทรงถือว่าอับราฮัมเป็นคนชอบธรรม" รม 4.10 แต่3/4ระเจ้าทรงถืออย่างไร เมื่อท่านเข้าสุหนัตแล้วหรือ หรือเมื่อยังไม่ได้เข้าสุหนัต มิใช่เมื่อท่านเข้าสุหนัตแล้วแต่เมื่อท่านยังไม่ได้เข้าสุหนัต รม 4.11 และ*่านได้เข้าสุหนัตเป็นเครื่องหมายสำคัญ เป็นตราแห่งความชอบธรรม ซึ่งเกิดโดยความเชื่อ*ี่*่านได้มีอยู่เมื่อ*่านยังไม่ได้เข้าสุหนัต เ3/4ื่อ*่านจะได้เป็นบิดาของคน*ั้งปวง*ี่เชื่อ *ั้ง*ี่เมื่อเขายังไม่ได้เข้าสุหนัต เ3/4ื่อจะถือว่าเป็น1/4ู้ชอบธรรมด้วย รม 4.12 และเ3/4ื่อ*่านจะเป็นบิดาของคนเหล่านั้น*ี่เข้าสุหนัต *ี่มิได้เ3/4ียงแต่เข้าสุหนัตเท่านั้น แต่มีความเชื่อตามแบบของอับราฮัมบิดาของเราทั้งหลาย ซึ่งท่านมีอยู่เมื่อท่านยังไม่ได้เข้าสุหนัต เรารับเอา3/4ระสัญญาโดยความเชื่อ รม 4.13 เ3/4ราะว่า3/4ระสัญญา*ี่ประ*านแก่อับราฮัมและ1/4ู้สืบเชื้อสายของ*่าน *ี่ว่าจะได้*ั้ง3/4ิภ3/4เป็นมรดกนั้นไม่ได้มีมาโดย3/4ระบัญญัติ แต่มีมาโดยความชอบธรรมที่เกิดจากความเชื่อ รม 4.14 ถ้าเขาเหล่านั้น*ี่ถือตาม3/4ระบัญญัติจะเป็น*ายา* ความเชื่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร และ3/4ระสัญญาก็เป็นอันไร้ประโยชน์ รม 4.15 เ3/4ราะ3/4ระบัญญัตินั้นกระ*ำให้*รง3/4ระ3/4ิโรธ แต่*ี่ใดไม่มี3/4ระบัญญัติ *ี่นั่นก็ไม่มีการละเมิด3/4ระบัญญัติ รม 4.16 ด้วยเหตุนี้เองการ*ี่ได้รับมรดกนั้นจึงขึ้นอยู่กับความเชื่อ เ3/4ื่อจะได้เป็นตาม3/4ระคุณ เ3/4ื่อ3/4ระสัญญานั้นจะเป็น*ี่แน่ใจแก่1/4ู้สืบเชื้อสายของ*่าน*ุกคน มิใช่แก่1/4ู้สืบเชื้อสายที่ถือ3/4ระบัญญัติ3/4วกเดียว แต่แก่คน*ี่มีความเชื่อเช่นเดียวกับอับราฮัม1/4ู้เป็นบิดาของ3/4วกเราทุกคน รม 4.17 (ตาม*ี่มีเขียนไว้แล้วว่า `เราได้ให้เจ้าเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย') ต่อ3/4ระ3/4ักตร์3/4ระองค์*ี่*่านเชื่อ คือ3/4ระเจ้า1/4ู้ทรงให้คนที่ตายแล้วฟื้นชีวิตขึ้นมา และทรงเรียกสิ่งของที่ยังมิได้เป็นให้เป็นขึ้น รม 4.18 1/2่ายอับราฮัมนั้นเมื่อไม่มีหวังซึ่งเป็นที่น่าไว้ใจก็ยังได้เชื่อไว้ใจ มีความหวังว่าจะได้เป็นบิดาของประชาชาติมากมาย ตามคำที่ได้ตรัสไว้แล้วว่า `เชื้อสายของเจ้าจะเป็นเช่นนั้น' รม 4.19 และความเชื่อของท่านมิได้หย่อนถอยลง ถึงแม้อายุของท่านได้ประมาณร้อยปีแล้ว ท่านก็มิได้คิดว่าร่างกายของท่านเปรียบเหมือนตายแล้ว และมิได้คิดว่าครรภ์นางซาราห์เป็นหมัน รม 4.20 *่านมิได้หวั่นไหวแคลงใจใน3/4ระสัญญาของ3/4ระเจ้า แต่*่านมีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้น จึงถวายเกียรติยศแด่3/4ระเจ้า รม 4.21 ท่านเชื่อมั่นว่า 3/4ระองค์*รงฤ*ธิ์สามารถกระ*ำให้สำเร็จได้ตาม*ี่3/4ระองค์ตรัสสัญญาไว้ รม 4.22 ด้วยเหตุนี้เอง 3/4ระเจ้าทรงถือว่าความเชื่อของท่านเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน รม 4.23 แต่คำว่า `*รงนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่*่าน' นั้น มิได้เขียนไว้สำหรับ*่านแต่1/4ู้เดียว รม 4.24 แต่สำหรับ3/4วกเราด้วย จะ*รงถือว่าเราเป็นคนชอบธรรม คือเรา*ี่เชื่อใน3/4ระองค์1/4ู้*รงให้3/4ระเยซูองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเราฟื้นขึ้นจากความตาย รม 4.25 คือ3/4ระองค์1/4ู้*รงถูกมอบไว้เ3/4ราะการละเมิดของเรา และได้*รงฟื้นขึ้นจากความตายเ3/4ื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม 3/4ระ3/4รแห่งความชอบธรรม รม 5.1 เหตุ(c)ะนั้นเมื่อเราเป็นคนชอบธรรมเ3/4ราะความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขกับ3/4ระเจ้า*าง3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา รม 5.2 โดย*าง3/4ระองค์ เราจึงได้เข้าในร่ม3/4ระคุณ*ี่เรายืนอยู่โดยความเชื่อ และเราชื่นชมยินดีในความหวังใจว่าจะได้มีส่วนในสง่าราศีของ3/4ระเจ้า รม 5.3 ยิ่งกว่านั้น เราชื่นชมยินดีในความ*ุกข์ยากด้วย เ3/4ราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้นทำให้เกิดความอดทน รม 5.4 และความอดทนทำให้เกิดมีประสบการณ์ และประสบการณ์ทำให้เกิดมีความหวังใจ รม 5.5 และความหวังใจมิได้*ำให้เกิดความละอาย เ3/4ราะเหตุว่าความรักของ3/4ระเจ้าได้หลั่งไหลเข้าสู่จิตใจของเรา โดย*าง3/4ระวิญญาณบริสุ*ธิ์ ซึ่ง3/4ระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว รม 5.6 ขณะเมื่อเรายังขาดกำลัง 3/4ระคริสต์ก็ได้*รงสิ้น3/4ระชนม์เ3/4ื่อช่วยคนอธรรมในเวลาที่เหมาะสม รม 5.7 ไม่ใคร่จะมีใครตายเ3/4ื่อคนตรง แต่บาง*ีจะมีคนอาจตายเ3/4ื่อคนดีก็ได้ รม 5.8 แต่3/4ระเจ้าทรงสำแดงความรักของ3/4ระองค์แก่เรา*ั้งหลาย คือขณะ*ี่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น 3/4ระคริสต์ได้*รงสิ้น3/4ระชนม์เ3/4ื่อเรา รม 5.9 เ3/4ราะเหตุนั้นเมื่อเราเป็นคนชอบธรรมแล้วโดย3/4ระโลหิตของ3/4ระองค์ ยิ่งกว่านั้น เราจะ3/4้นจาก3/4ระ3/4ิโรธโดย3/4ระองค์ รม 5.10 เ3/4ราะว่าถ้าขณะที่เรายังเป็นศัตรู เราได้กลับคืนดีกับ3/4ระเจ้าโดย*ี่3/4ระบุตรของ3/4ระองค์สิ้น3/4ระชนม์ ยิ่งกว่านั้นอีกเมื่อเรากลับคืนดีแล้ว เราก็จะรอดโดย3/4ระชนม์ชี3/4ของ3/4ระองค์แน่ รม 5.11 มิใช่เ3/4ียงเ*่านั้น เรา*ั้งหลายยังชื่นชมยินดีใน3/4ระเจ้าโดย*าง3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา เ3/4ราะโดย3/4ระองค์นั้นเราจึงได้กลับคืนดีกับ3/4ระเจ้า ความ1/4ิดบาปโดยอาดัม ความชอบธรรมโดย3/4ระคริสต์ รม 5.12 เหตุ(c)ะนั้นเช่นเดียวกับ*ี่บาปได้เข้ามาในโลกเ3/4ราะคนๆเดียว และความตายก็เกิดมาเ3/4ราะบาปนั้น และความตายก็ได้แ1/4่ไปถึงมวลมนุษย์*ุกคน เ3/4ราะมนุษย์ทุกคนทำบาป รม 5.13 (บาปได้มีอยู่ในโลกแล้วก่อนมี3/4ระบัญญัติ แต่*ี่ใดไม่มี3/4ระบัญญัติก็ไม่ถือว่ามีบาป รม 5.14 อย่างไรก็ตามความตายก็ได้ครอบงำตลอดมาตั้งแต่อาดัมจนถึงโมเสส แม้คน*ี่มิได้*ำบาปอย่างเดียวกับการละเมิดของอาดัม 1/4ู้ซึ่งเป็นแบบของ1/4ู้ที่จะเสด็จมาภายหลัง รม 5.15 แต่ของประ*านแห่ง3/4ระคุณนั้นหาเป็นเช่นความละเมิดนั้นไม่ เ3/4ราะว่าถ้าคนเป็นอันมากต้องตายเ3/4ราะการละเมิดของคนๆเดียว มากยิ่งกว่านั้น 3/4ระคุณของ3/4ระเจ้าและของประ*านโดย3/4ระคุณของ3/4ระองค์1/4ู้เดียวนั้น คือ3/4ระเยซูคริสต์ ก็มีบริบูรณ์แก่คนเป็นอันมาก รม 5.16 และของประ*านนั้นก็ไม่เหมือนกับ1/4ลซึ่งเกิดจากบาปของคนนั้นคนเดียว เ3/4ราะว่าการ3/4ิ3/4ากษา*ี่เกิดขึ้นเนื่องจากการละเมิดเ3/4ียงครั้งเดียวนั้น ได้นำไปสู่การลงโทษ แต่ของประทานภายหลังการละเมิดหลายครั้งนั้นนำไปสู่ความชอบธรรม รม 5.17 เ3/4ราะว่าถ้าโดยการละเมิดของคนนั้นคนเดียว เป็นเหตุให้ความตายครอบงำอยู่โดยคนนั้นคนเดียว มากยิ่งกว่านั้นคน*ั้งหลาย*ี่รับ3/4ระคุณอันไ3/4บูลย์และรับของประ*านแห่งความชอบธรรม ก็จะดำรงชีวิตและครอบครองโดย3/4ระองค์1/4ู้เดียว คือ3/4ระเยซูคริสต์) รม 5.18 (c)ะนั้นการ3/4ิ3/4ากษาลงโ*ษได้มาถึงคน*ั้งปวงเ3/4ราะการละเมิดของคนๆเดียว(c)ันใด ความชอบธรรมของ3/4ระองค์1/4ู้เดียวก็นำของประทานแห่ง3/4ระคุณมาถึง*ุกคน(c)ันนั้น คือความชอบธรรมแห่งชีวิต รม 5.19 เ3/4ราะว่าคนเป็นอันมากเป็นคนบาปเ3/4ราะคนๆเดียว*ี่มิได้เชื่อฟัง(c)ันใด คนเป็นอันมากก็เป็นคนชอบธรรมเ3/4ราะ3/4ระองค์1/4ู้เดียว*ี่ได้*รงเชื่อฟัง(c)ันนั้น รม 5.20 เมื่อมี3/4ระบัญญัติก็*ำให้มีการละเมิด3/4ระบัญญัติปรากฏมากขึ้น แต่*ี่ใดมีบาปปรากฏมากขึ้น *ี่นั่น3/4ระคุณก็จะไ3/4บูลย์ยิ่งขึ้น รม 5.21 เ3/4ื่อว่าบาปได้ครอบงำ*ำให้ถึงซึ่งความตาย(c)ันใด 3/4ระคุณก็ครอบงำด้วยความชอบธรรมให้ถึงซึ่งชีวิตนิรันดร์ โดย*าง3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา(c)ันนั้น การตาย1/2่ายความบาป แต่มีชีวิต1/2่าย3/4ระคริสต์ รม 6.1 ถ้าเช่นนั้นแล้วเราจะว่าอย่างไร ควรเราจะอยู่ในบาปต่อไปเ3/4ื่อให้3/4ระคุณมีมากยิ่งขึ้นหรือ รม 6.2 อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย 3/4วกเราที่ตายต่อบาปแล้ว จะมีชีวิตในบาปต่อไปอย่างไรได้ รม 6.3 *่านไม่รู้หรือว่า เรา*ั้งหลาย*ี่ได้รับบั3/4ติศมาเข้าใน3/4ระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบั3/4ติศมานั้นเข้าในความตายของ3/4ระองค์ รม 6.4 เหตุ(c)ะนั้นเราจึงถูก1/2ังไว้กับ3/4ระองค์แล้วโดยการรับบั3/4ติศมาเข้าส่วนในความตายนั้น เหมือนกับ*ี่3/4ระคริสต์ได้*รงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย โดยเดช3/4ระรัศมีของ3/4ระบิดาอย่างไร เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยอย่างนั้น รม 6.5 เ3/4ราะว่าถ้าเราเข้าสนิ*กับ3/4ระองค์แล้วในการตายอย่าง3/4ระองค์ เราก็จะเป็นขึ้นมาอย่าง3/4ระองค์ได้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายด้วย รม 6.6 เรา*ั้งหลายรู้แล้วว่า มนุษย์เก่าของเรานั้นได้ถูกตรึงไว้กับ3/4ระองค์แล้ว เ3/4ื่อตัว*ี่บาปนั้นจะถูก*ำลายให้สิ้นไป เ3/4ื่อเราจะไม่เป็นทาสของบาปอีกต่อไป รม 6.7 เ3/4ราะว่า1/4ู้*ี่ตายแล้วก็3/4้นจากบาป รม 6.8 แต่ถ้าเราตายแล้วกับ3/4ระคริสต์ เราเชื่อว่าเราจะมีชีวิตอยู่กับ3/4ระองค์ด้วย รม 6.9 เรา*ั้งหลายรู้อยู่ว่า 3/4ระคริสต์*ี่*รงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากตายแล้วนั้นจะหาตายอีกไม่ ความตายหาครอบงำ3/4ระองค์ต่อไปไม่ รม 6.10 ด้วยว่าซึ่ง3/4ระองค์ได้*รงตายนั้น 3/4ระองค์ได้*รงตายต่อบาปหนเดียว แต่ซึ่ง3/4ระองค์*รงมีชีวิตอยู่นั้น 3/4ระองค์*รงมีชีวิตเ3/4ื่อ3/4ระเจ้า ทาสแห่งความชอบธรรม รม 6.11 เหมือนกันเช่นนั้นแหละ *่าน*ั้งหลายจงถือว่า *่านได้ตายต่อบาปและมีชีวิตอยู่เ3/4ื่อ3/4ระเจ้า ใน3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา รม 6.12 เหตุ(c)ะนั้นอย่าให้บาปครอบงำกายที่ต้องตายของท่าน ซึ่งทำให้ต้องเชื่อฟังตัณหาของกายนั้น รม 6.13 อย่ายกอวัยวะของ*่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของ*่านแด่3/4ระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงให้อวัยวะของ*่านเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่3/4ระเจ้า รม 6.14 เ3/4ราะว่าบาปจะมีอำนาจเหนือ*่าน*ั้งหลายต่อไปก็หามิได้ เ3/4ราะว่า*่าน*ั้งหลายมิได้อยู่ใต้3/4ระบัญญัติ แต่อยู่ใต้3/4ระคุณ รม 6.15 ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป เราจะ*ำบาปเ3/4ราะมิได้อยู่ใต้3/4ระบัญญัติแต่อยู่ใต้3/4ระคุณกระนั้นหรือ ก็อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย รม 6.16 *่าน*ั้งหลายไม่รู้หรือว่า *่านจะยอมตัวรับใช้เชื่อฟังคำของ1/4ู้ใด *่านก็เป็น*าสของ1/4ู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้น คือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตาย หรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรม รม 6.17 แต่จงขอบ3/4ระคุณ3/4ระเจ้าเ3/4ราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาป แต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงมอบไว้แก่ท่าน รม 6.18 เมื่อ*่าน3/4้นจากบาปแล้ว ท่านก็ได้กลายเป็นทาสของความชอบธรรม รม 6.19 ข้า3/4เจ้ายกเอาตัวอย่างมนุษย์มา3/4ูด เ3/4ราะเหตุเนื้อหนังของ*่านอ่อนกำลัง เ3/4ราะ*่านเคยให้อวัยวะของ*่านเป็น*าสของการโสโครกและของความชั่วช้าซ้อนชั่วช้า(c)ันใด บัดนี้*่านจงให้อวัยวะของ*่านเป็น*าสของความชอบธรรม เ3/4ื่อให้ถึงความบริสุ*ธิ์(c)ันนั้น รม 6.20 เ3/4ราะเมื่อท่านทั้งหลายเป็นทาสของบาป ความชอบธรรมก็ไม่ได้ครอบครองท่าน รม 6.21 ขณะนั้น*่านได้1/4ลประโยชน์อะไรในการเหล่านั้น ซึ่งบัดนี้ท่านทั้งหลายก็ละอาย ด้วยว่าที่สุดท้ายของการเหล่านั้นก็คือความตาย รม 6.22 แต่เดี๋ยวนี้*่าน*ั้งหลาย3/4้นจากการเป็น*าสของบาป และกลับมาเป็น1/4ู้รับใช้ของ3/4ระเจ้าแล้ว 1/4ล*ี่*่านได้รับก็คือความบริสุ*ธิ์ และ1/4ลสุดท้ายคือชีวิตนิรันดร์ รม 6.23 เ3/4ราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประ*านของ3/4ระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ใน3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา การยอมตาม3/4ระคริสต์อย่างไม่เลิกร้าง รม 7.1 3/4ี่น้อง*ั้งหลาย *่านไม่รู้หรือ (ข้า3/4เจ้า3/4ูดกับคน*ี่รู้3/4ระบัญญัติแล้ว) ว่า3/4ระบัญญัตินั้นมีอำนาจเหนือมนุษย์เ(c)3/4าะในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น รม 7.2 เ3/4ราะว่า 1/4ู้หญิง*ี่สามียังมีชีวิตอยู่นั้นต้องอยู่ใต้3/4ระบัญญัติว่าด้วยประเ3/4ณีสามีภรรยา แต่ถ้าสามีตาย 1/4ู้หญิงนั้นก็3/4้นจาก3/4ระบัญญัติว่าด้วยประเ3/4ณีสามีภรรยา รม 7.3 (c)ะนั้น ถ้า1/4ู้หญิงนั้นไปแต่งงานกับชายอื่นในเมื่อสามียังมีชีวิตอยู่ นางก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงล่วงประเวณี แต่ถ้าสามีตายแล้ว นางก็3/4้นจาก3/4ระบัญญัตินั้น แม้นางไปแต่งงานกับชายอื่นก็หา1/4ิดประเวณีไม่ รม 7.4 เช่นนั้นแหละ 3/4ี่น้อง*ั้งหลายของข้า3/4เจ้า *่าน*ั้งหลายได้ตายจาก3/4ระบัญญัติ*าง3/4ระกายของ3/4ระคริสต์ด้วย เ3/4ื่อ*่านจะตกเป็นของ1/4ู้อื่น คือของ3/4ระองค์1/4ู้*รงฟื้นขึ้นมาจากความตายแล้ว เ3/4ื่อเรา*ั้งหลายจะได้เกิด1/4ลถวายแด่3/4ระเจ้า รม 7.5 เ3/4ราะว่าเมื่อเราเคยมีชีวิตตามเนื้อหนัง ตัณหาชั่วซึ่งเป็นมาโดย3/4ระบัญญัติได้*ำให้อวัยวะของเราเกิด1/4ลนำไปสู่ความตาย รม 7.6 แต่บัดนี้เราได้3/4้นจาก3/4ระบัญญัติ คือได้ตายจาก3/4ระบัญญัติ*ี่ได้1/4ูกมัดเราไว้ เ3/4ื่อเราจะได้ไม่ประ3/4ฤติตามตัวอักษรในประมวล3/4ระบัญญัติเก่า แต่จะดำเนินชีวิตใหม่ตามลักษณะจิตวิญญาณ 3/4ระบัญญัติชี้ว่าทุกคนต้องการความรอด รม 7.7 ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร ว่า3/4ระบัญญัติคือบาปหรือ หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่ว่าถ้ามิใช่เ3/4ราะ3/4ระบัญญัติแล้ว ข้า3/4เจ้าก็จะไม่รู้จักบาป เ3/4ราะว่าถ้า3/4ระบัญญัติมิได้ห้ามว่า "อย่าโลภ" ข้า3/4เจ้าก็จะไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ รม 7.8 แต่ว่าบาปได้ถือเอา3/4ระบัญญัตินั้นเป็นช่อง ทำให้ตัณหาชั่วทุกอย่างเกิดขึ้นในตัวข้า3/4เจ้า เ3/4ราะว่าถ้าไม่มี3/4ระบัญญัติ บาปก็ตายเสียแล้ว รม 7.9 เ3/4ราะครั้งหนึ่งข้า3/4เจ้าดำรงชีวิตอยู่โดยปราศจาก3/4ระบัญญัติ แต่เมื่อมี3/4ระบัญญัติบาปก็กลับมีขึ้นอีกและข้า3/4เจ้าก็ตาย รม 7.10 3/4ระบัญญัตินั้นซึ่งมีขึ้นเ3/4ื่อให้มีชีวิต ข้า3/4เจ้าเห็นว่ากลับเป็นเหตุที่ทำให้ถึงความตาย รม 7.11 เ3/4ราะว่าบาปได้ถือเอา3/4ระบัญญัตินั้นเป็นช่อง*างล่อลวงข้า3/4เจ้า และประหารข้า3/4เจ้าให้ตายด้วย3/4ระบัญญัตินั้น รม 7.12 เหตุ(c)ะนั้น3/4ระบัญญัติจึงเป็นสิ่งบริสุทธิ์ และข้อบัญญัติก็บริสุทธิ์ ยุติธรรม และดี รม 7.13 ถ้าเช่นนั้น สิ่ง*ี่ดีกลับ*ำให้ข้า3/4เจ้าต้องตายหรือ หามิได้ บาปต่างหาก คือบาปซึ่งอาศัยสิ่ง*ี่ดีนั้น*ำให้ข้า3/4เจ้าต้องตาย เ3/4ื่อจะให้ปรากฏว่าบาปนั้นเป็นบาปจริงและโดยอาศัย3/4ระบัญญัตินั้น บาปก็ปรากฏว่าชั่วร้ายยิ่งนัก รม 7.14 เ3/4ราะเรารู้ว่า3/4ระบัญญัตินั้นเป็นโดย1/2่ายจิตวิญญาณ แต่ว่าข้า3/4เจ้าเป็นแต่เนื้อหนังถูกขายไว้ให้อยู่ใต้บาป การต่อสู้กันระหว่าง1/2่ายเนื้อหนังกับ1/2่ายจิตวิญญาณ รม 7.15 ข้า3/4เจ้าไม่เข้าใจการกระ*ำของข้า3/4เจ้าเอง เ3/4ราะว่าข้า3/4เจ้าไม่*ำสิ่ง*ี่ข้า3/4เจ้าปรารถนา*ี่จะ*ำ แต่กลับ*ำสิ่ง*ี่ข้า3/4เจ้าเกลียดชังนั้น รม 7.16 เหตุ(c)ะนั้นถ้าข้า3/4เจ้า*ำสิ่ง*ี่ข้า3/4เจ้าไม่ปรารถนา*ี่จะ*ำ ข้า3/4เจ้าก็ยอมรับว่า3/4ระบัญญัตินั้นดี รม 7.17 (c)ะนั้นข้า3/4เจ้าจึงมิใช่1/4ู้กระ*ำ แต่ว่าบาปซึ่งอยู่ในตัวข้า3/4เจ้านั่นเองเป็น1/4ู้ทำ รม 7.18 ด้วยว่าข้า3/4เจ้ารู้ว่าในตัวข้า3/4เจ้า (คือในเนื้อหนังของข้า3/4เจ้า) ไม่มีความดีประการใดอยู่เลย เ3/4ราะว่าเจตนาดีข้า3/4เจ้าก็มีอยู่ แต่ซึ่งจะกระ*ำการดีนั้นข้า3/4เจ้าหาได้กระทำไม่ รม 7.19 ด้วยว่าการดีนั้นซึ่งข้า3/4เจ้าปรารถนา*ำ ข้า3/4เจ้าไม่ได้กระ*ำ แต่การชั่วซึ่งข้า3/4เจ้ามิได้ปรารถนา*ำ ข้า3/4เจ้ายังทำอยู่ รม 7.20 ถ้าแม้ข้า3/4เจ้ายัง*ำสิ่งซึ่งข้า3/4เจ้าไม่ปรารถนาจะ*ำ ก็ไม่ใช่ตัวข้า3/4เจ้าเป็น1/4ู้กระ*ำ แต่บาปซึ่งอยู่ในตัวข้า3/4เจ้านั่นเองเป็น1/4ู้กระทำ รม 7.21 ดังนั้นข้า3/4เจ้าจึงเห็นว่าเป็นก(r)อย่างหนึ่ง คือเมื่อใดข้า3/4เจ้าตั้งใจจะกระ*ำความดี ความชั่วก็ยังติดอยู่ในตัวข้า3/4เจ้า รม 7.22 เ3/4ราะว่าส่วนลึกในใจของข้า3/4เจ้านั้น ข้า3/4เจ้าชื่นชมใน3/4ระบัญญัติของ3/4ระเจ้า รม 7.23 แต่ข้า3/4เจ้าเห็นมีก(r)อีกอย่างหนึ่งอยู่ในอวัยวะของข้า3/4เจ้า ซึ่งต่อสู้กับก(r)แห่งจิตใจของข้า3/4เจ้า และชักนำให้ข้า3/4เจ้าอยู่ใต้บังคับก(r)แห่งบาปซึ่งอยู่ในอวัยวะของข้า3/4เจ้า รม 7.24 โอ ข้า3/4เจ้าเป็นคนเข็ญใจจริง ใครจะช่วยข้า3/4เจ้าให้3/4้นจากร่างกายแห่งความตายนี้ได้ รม 7.25 ข้า3/4เจ้าขอบ3/4ระคุณ3/4ระเจ้า โดย*าง3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา (c)ะนั้น*างด้านจิตใจข้า3/4เจ้ารับใช้3/4ระบัญญัติของ3/4ระเจ้า แต่ด้าน1/2่ายเนื้อหนังข้า3/4เจ้ารับใช้ก(r)แห่งบาป ไม่มีการปรับโ*ษแก่คน*ั้งหลาย*ี่อยู่ใน3/4ระเยซูคริสต์ รม 8.1 เหตุ(c)ะนั้นการปรับโ*ษจึงไม่มีแก่คน*ั้งหลาย*ี่อยู่ใน3/4ระเยซูคริสต์ 1/4ู้ไม่ดำเนินตาม1/2่ายเนื้อหนัง แต่ตาม1/2่าย3/4ระวิญญาณ รม 8.2 เ3/4ราะว่าก(r)ของ3/4ระวิญญาณแห่งชีวิตใน3/4ระเยซูคริสต์ ได้*ำให้ข้า3/4เจ้า3/4้นจากก(r)แห่งบาปและความตาย รม 8.3 เ3/4ราะสิ่งซึ่ง3/4ระบัญญัติ*ำไม่ได้เ3/4ราะเนื้อหนังทำให้อ่อนกำลังไปนั้น 3/4ระเจ้า*รงใช้3/4ระบุตรของ3/4ระองค์มาในสภา3/4เสมือนเนื้อหนัง*ี่บาปและเ3/4ื่อไถ่บาป 3/4ระองค์จึงได้ทรงปรับโทษบาปที่อยู่ในเนื้อหนัง รม 8.4 เ3/4ื่อความชอบธรรมของ3/4ระบัญญัติจะได้สำเร็จใน3/4วกเรา 1/4ู้ไม่ดำเนินตาม1/2่ายเนื้อหนัง แต่ตาม1/2่าย3/4ระวิญญาณ อยู่1/2่าย3/4ระวิญญาณหรืออยู่1/2่ายเนื้อหนัง รม 8.5 เ3/4ราะว่า คน*ั้งหลาย*ี่อยู่1/2่ายเนื้อหนังก็ปักใจในสิ่งซึ่งเป็นของของเนื้อหนัง แต่คน*ั้งหลาย*ี่อยู่1/2่าย3/4ระวิญญาณก็ปักใจในสิ่งซึ่งเป็นของของ3/4ระวิญญาณ รม 8.6 ด้วยว่าซึ่งปักใจอยู่กับเนื้อหนังก็คือความตาย และซึ่งปักใจอยู่กับ3/4ระวิญญาณก็คือชีวิตและสันติสุข รม 8.7 เหตุว่าใจซึ่งปักอยู่กับเนื้อหนังนั้นก็เป็นศัตรูต่อ3/4ระเจ้า เ3/4ราะหาได้อยู่ใต้บังคับ3/4ระบัญญัติของ3/4ระเจ้าไม่ และ*ี่จริงจะอยู่ใต้บังคับ3/4ระบัญญัตินั้นไม่ได้ รม 8.8 เ3/4ราะ(c)ะนั้นคน*ั้งหลาย*ี่อยู่1/2่ายเนื้อหนังจะเป็น*ี่ชอบ3/4ระ*ัย3/4ระเจ้าก็หามิได้ รม 8.9 ถ้า3/4ระวิญญาณของ3/4ระเจ้า*รงสถิตอยู่ใน*่าน*ั้งหลายจริงๆแล้ว *่านก็มิได้อยู่1/2่ายเนื้อหนัง แต่อยู่1/2่าย3/4ระวิญญาณ แต่ถ้า1/4ู้ใดไม่มี3/4ระวิญญาณของ3/4ระคริสต์ 1/4ู้นั้นก็ไม่เป็นของ3/4ระองค์ รม 8.10 และถ้า3/4ระคริสต์อยู่ใน*่าน*ั้งหลายแล้ว ร่างกายก็ตายไปเ3/4ราะบาป แต่จิตวิญญาณก็มีชีวิตเ3/4ราะความชอบธรรม รม 8.11 แต่ถ้า3/4ระวิญญาณของ3/4ระองค์ 1/4ู้*รงชุบให้3/4ระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย*รงสถิตอยู่ใน*่าน*ั้งหลาย 3/4ระองค์1/4ู้*รงชุบให้3/4ระคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตายแล้วนั้น จะ*รงกระ*ำให้กายซึ่งต้องตายของ*่าน เป็นขึ้นมาใหม่ด้วย โดย3/4ระวิญญาณของ3/4ระองค์ซึ่งทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย รม 8.12 *่าน3/4ี่น้อง*ั้งหลาย เหตุ(c)ะนั้นเรา*ั้งหลายเป็นหนี้ แต่มิใช่เป็นหนี้1/2่ายเนื้อหนังที่จะดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง รม 8.13 เ3/4ราะว่าถ้า*่าน*ั้งหลายดำเนินชีวิตตาม1/2่ายเนื้อหนังแล้ว *่านจะต้องตาย แต่ถ้าโดย1/2่าย3/4ระวิญญาณท่านได้*ำลายการของ1/2่ายกายเสีย ท่านก็จะดำรงชีวิตได้ 1/4ู้เชื่อเป็น*ายา*ร่วมกันกับ3/4ระคริสต์ รม 8.14 ด้วยว่า3/4ระวิญญาณของ3/4ระเจ้าได้*รงนำ3/4าคนหนึ่งคนใด คนเหล่านั้นก็เป็นบุตรของ3/4ระเจ้า รม 8.15 เหตุว่า*่านไม่ได้รับนิสัยอย่าง*าสซึ่ง*ำให้ตกในความกลัวอีก แต่*่านได้รับ3/4ระวิญญาณ1/4ู้*รงให้เป็นบุตรซึ่งให้เรา*ั้งหลายร้องเรียก3/4ระเจ้าว่า "อับบา" คือ3/4ระบิดา รม 8.16 3/4ระวิญญาณนั้นเป็น3/4ยานร่วมกับจิตวิญญาณของเรา*ั้งหลายว่า เรา*ั้งหลายเป็นบุตรของ3/4ระเจ้า รม 8.17 และถ้าเรา*ั้งหลายเป็นบุตรแล้ว เราก็เป็น*ายา*คือเป็น*ายา*ของ3/4ระเจ้า และเป็นทายา*ร่วมกับ3/4ระคริสต์ เมื่อเรา*ั้งหลาย*น*ุกข์*รมานด้วยกันกับ3/4ระองค์นั้น ก็เ3/4ื่อเรา*ั้งหลายจะได้สง่าราศีด้วยกันกับ3/4ระองค์ด้วย ร่างกายที่ตายได้รอคอยสง่าราศีแห่งการเป็นขึ้นมาจากความตาย รม 8.18 เ3/4ราะข้า3/4เจ้าเห็นว่า ความทุกข์ลำบากแห่งสมัยปัจจุบันนี้ ไม่สมควรที่จะเอาไปเปรียบกับสง่าราศีซึ่งจะเ1/4ยในเราทั้งหลาย รม 8.19 ด้วยว่าสรร3/4สิ่ง*ี่*รงสร้างแล้ว มีความเ3/4ียรคอย*่าปรารถนาให้บุตร*ั้งหลายของ3/4ระเจ้าปรากฏ รม 8.20 เ3/4ราะว่าสรร3/4สิ่งเหล่านั้นต้องเข้าอยู่ในอำนาจของอนิจจัง ไม่ใช่ตามใจชอบของตนเอง แต่เป็นไปตาม3/4ระองค์1/4ู้ทรงบันดาลให้เข้าอยู่นั้นด้วยมีความหวังใจ รม 8.21 ว่าสรร3/4สิ่งเหล่านั้นจะได้รอดจากอำนาจแห่งความเปื่อยเน่า และจะเข้าในเสรีภา3/4ซึ่งมีสง่าราศีแห่งบุตร*ั้งหลายของ3/4ระเจ้าด้วย รม 8.22 เรารู้อยู่ว่า บรรดาสรร3/4สิ่ง*ี่*รงสร้างนั้น กำลังคร่ำครวญและ1/4จญความทุกข์ลำบากเจ็บปวดด้วยกันมาจนทุกวันนี้ รม 8.23 และไม่ใช่สรร3/4สิ่ง*ั้งปวงเ*่านั้น แต่เรา*ั้งหลายเองด้วย 1/4ู้ได้รับ1/4ลแรกของ3/4ระวิญญาณ ตัวเราเองก็ยังคร่ำครวญคอยจะเป็นอย่างบุตร คือที่จะทรงไถ่กายของเราทั้งหลายไว้ รม 8.24 เหตุว่าเรา*ั้งหลายรอดได้เ3/4ราะความหวังใจ แต่ความหวังใจในสิ่งที่เราเห็นได้หาได้เป็นความหวังใจไม่ ด้วยว่าใครเล่าจะยังหวังในสิ่งที่เขาเห็น รม 8.25 แต่ถ้าเรา*ั้งหลายคอยหวังใจในสิ่ง*ี่เรายังไม่ได้เห็น เราจึงมีความเ3/4ียรคอยสิ่งนั้น 3/4ระวิญญาณบริสุ*ธิ์*รงอธิษฐานเ3/4ื่อเราด้วยกันกับเรา รม 8.26 3/4ระวิญญาณก็ทรงช่วยเราเมื่อเราอ่อนกำลังด้วยเช่นกัน เ3/4ราะเราไม่รู้ว่าเราควรจะอธิษฐานขอสิ่งใดอย่างไร แต่3/4ระวิญญาณเอง*รงช่วยขอเ3/4ื่อเราด้วยความคร่ำครวญซึ่งเหลือ*ี่จะ3/4ูดได้ รม 8.27 และ3/4ระองค์ 1/4ู้*รงตรวจค้นใจมนุษย์ ก็*รง*ราบความหมายของ3/4ระวิญญาณ เ3/4ราะว่า3/4ระองค์*รงอธิษฐานขอเ3/4ื่อวิสุ*ธิชนตาม*ี่ชอบ3/4ระ*ัย3/4ระเจ้า ทรงเรียก ทรงประทานความรอด ทรงให้เป็นคนชอบธรรม ทรงประทานสง่าราศี รม 8.28 เรารู้ว่า 3/4ระเจ้า*รงร่วมมือกับคน*ั้งหลาย*ี่รัก3/4ระองค์ให้เกิด1/4ลอันดีใน*ุกสิ่ง คือคน*ั้งปวง*ี่3/4ระองค์ได้*รงเรียกตาม3/4ระประสงค์ของ3/4ระองค์ รม 8.29 เ3/4ราะว่า1/4ู้หนึ่ง1/4ู้ใด*ี่3/4ระองค์ได้ทรง*ราบอยู่แล้ว 1/4ู้นั้น3/4ระองค์ได้*รงตั้งไว้ให้เป็นตามลักษณะ3/4ระ(c)ายแห่ง3/4ระบุตรของ3/4ระองค์ เ3/4ื่อ3/4ระบุตรนั้นจะได้เป็นบุตรหัวปี*่ามกลาง3/4วก3/4ี่น้องเป็นอันมาก รม 8.30 ยิ่งกว่านั้นบรรดา1/4ู้*ี่3/4ระองค์ได้*รงตั้งไว้นั้น 3/4ระองค์ได้*รงเรียกมาด้วย และ1/4ู้*ี่3/4ระองค์ได้ทรงเรียกมานั้น 3/4ระองค์ได้*รงโปรดให้เป็น1/4ู้ชอบธรรม และ1/4ู้*ี่3/4ระองค์*รงโปรดให้เป็น1/4ู้ชอบธรรม 3/4ระองค์ก็ทรงโปรดให้มีสง่าราศีด้วย รม 8.31 ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร ถ้า3/4ระเจ้า*รงอยู่1/2่ายเรา ใครจะขัดขวางเรา รม 8.32 3/4ระองค์1/4ู้มิได้*รงหวง3/4ระบุตรของ3/4ระองค์เอง แต่ได้ทรงโปรดประ*าน3/4ระบุตรนั้นเ3/4ื่อเรา*ั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น3/4ระองค์จะไม่*รงโปรดประ*านสิ่งสาร3/4ัดให้เรา*ั้งหลาย ด้วยกันกับ3/4ระบุตรนั้นหรือ รม 8.33 ใครจะฟ้องคนเหล่านั้น*ี่3/4ระเจ้าได้*รงเลือกไว้ 3/4ระเจ้า*รงเป็น1/4ู้ที่ทำให้เราเป็นคนชอบธรรมแล้ว รม 8.34 ใครเล่าจะเป็น1/4ู้ปรับโทษอีก ก็คือ3/4ระคริสต์1/4ู้*รงสิ้น3/4ระชนม์แล้ว และยิ่งกว่านั้นอีกได้*รงคืน3/4ระชนม์ *รงสถิต ณ เบื้องขวา3/4ระหัตถ์ของ3/4ระเจ้า และ*รงอธิษฐานขอเ3/4ื่อเราทั้งหลายด้วย 1/4ู้เชื่อได้รับความรอดนิรันดร์ รม 8.35 แล้วใครจะให้เรา*ั้งหลายขาดจากความรักของ3/4ระคริสต์ได้เล่า จะเป็นความยากลำบาก หรือความ*ุกข์ หรือการข่มเหง หรือการกันดารอาหาร หรือการเปลือยกาย หรือการถูกโ3/4ยภัย หรือการถูกคมดาบหรือ รม 8.36 ตาม*ี่เขียนไว้แล้วว่า `เ3/4ราะเห็นแก่3/4ระองค์ ข้า3/4ระองค์ทั้งหลายจึงถูกประหารวันยังค่ำ และนับว่าเป็นเหมือนแกะสำหรับจะเอาไปฆ่า' รม 8.37 แต่ว่าในเหตุการณ์*ั้งปวงเหล่านี้ เรามีชัยเหลือล้นโดย3/4ระองค์1/4ู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย รม 8.38 เ3/4ราะข้า3/4เจ้าเชื่อมั่นว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือ*ูตสวรรค์ หรือ1/4ู้มีบรรดาศักดิ์ หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า รม 8.39 หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งอื่นใดๆ*ี่ได้*รงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถกระ*ำให้เรา*ั้งหลายขาดจากความรักของ3/4ระเจ้า ซึ่งมีอยู่ใน3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเราได้ ความห่วงใยของเปาโลที่มีต่อชาติอิสราเอล รม 9.1 ข้า3/4เจ้า3/4ูดตามความจริงใน3/4ระคริสต์ ข้า3/4เจ้าไม่ได้มุสา ใจสำนึก1/4ิดชอบของข้า3/4เจ้าเป็น3/4ยาน1/2่ายข้า3/4เจ้าโดย3/4ระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย รม 9.2 ว่า ข้า3/4เจ้ามีความทุกข์หนักและเสียใจเสมอมิได้ขาด รม 9.3 เ3/4ราะว่าข้า3/4เจ้าปรารถนาจะให้ข้า3/4เจ้าเองถูกสาปให้ตัดขาดจาก3/4ระคริสต์ เ3/4ราะเห็นแก่3/4ี่น้องของข้า3/4เจ้า คือญาติของข้า3/4เจ้าตามเนื้อหนัง รม 9.4 3/4วกเขาเป็นคนอิสราเอล ได้รับการ*รงให้เป็นบุตรของ3/4ระเจ้าและสง่าราศี และบรรดา3/4ันธสัญญา และการ*รงประ*าน3/4ระบัญญัติ และการปรนนิบัติ3/4ระเจ้าและ3/4ระสัญญาทั้งหลาย รม 9.5 *ั้งบรร3/4บุรุษก็เป็นของเขาด้วย และ3/4ระคริสต์ก็ได้ทรงถือกำเนิดตามเนื้อหนังในเชื้อชาติของเขา 3/4ระองค์1/4ู้*รงอยู่เหนือสาร3/4ัด 1/4ู้ซึ่ง3/4ระเจ้าจะ*รงโปรดอวย3/4ระ3/4รเป็นนิตย์ เอเมน มิใช่ชาวยิวจะอยู่1/2่ายจิตวิญญาณทุกคน รม 9.6 แต่มิใช่ว่า3/4ระวจนะของ3/4ระเจ้าได้ไร้ประโยชน์ไป เ3/4ราะว่าเขาทั้งหลายที่เกิดมาจากอิสราเอลนั้นหาได้เป็นคนอิสราเอลแท้ทุกคนไม่ รม 9.7 และมิใช่ว่าทุกคนที่เป็นเชื้อสายของอับราฮัมเป็นบุตรแท้ของท่าน แต่ว่า `เขาจะเรียกเชื้อสายของเจ้าทางสายอิสอัค' รม 9.8 คือว่าเขาเหล่านั้น*ี่เป็นบุตรตามเนื้อหนังจะนับเป็นบุตรของ3/4ระเจ้าไม่ได้ แต่บุตรแห่ง3/4ระสัญญานั้นจึงจะนับเป็นเชื้อสายได้ รม 9.9 เ3/4ราะ3/4ระวจนะแห่ง3/4ระสัญญามีว่าดังนี้ `คราวนี้เราจะมาและนางซาราห์จะมีบุตรชาย' 3/4ระเจ้าทรงเลือกยาโคบ รม 9.10 และมิใช่เ*่านั้น แต่ว่านางเรเบคาห์ก็ได้มีครรภ์กับชายคนหนึ่งด้วย คืออิสอัคบรร3/4บุรุษของเรา รม 9.11 (แม้ก่อนบุตรนั้นบังเกิดมา และยังไม่ได้กระ*ำดีหรือชั่ว เ3/4ื่อ3/4ระดำริของ3/4ระเจ้าในการ*รงเลือกนั้นจะตั้งมั่นคงอยู่ ไม่ใช่ตามการประ3/4ฤติ แต่ตามซึ่ง3/4ระองค์ทรงเรียก) รม 9.12 3/4ระองค์จึงตรัสแก่นางนั้นว่า `3/4ี่จะปรนนิบัติน้อง' รม 9.13 ตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า `เราก็ยังรักยาโคบ แต่เราได้เกลียดเอซาว' รม 9.14 ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร 3/4ระเจ้าไม่ทรงยุติธรรมหรือ มิใช่เช่นนั้น รม 9.15 เ3/4ราะ3/4ระองค์ตรัสกับโมเสสว่า `เราประสงค์จะกรุณา1/4ู้ใด เราก็จะกรุณา1/4ู้นั้น และเราประสงค์จะเมตตา1/4ู้ใด เราก็จะเมตตา1/4ู้นั้น' รม 9.16 เ3/4ราะ(c)ะนั้นจึงไม่ขึ้นแก่ความตั้งใจหรือการตะเกียกตะกายของเขา แต่ขึ้นอยู่กับ3/4ระเจ้า1/4ู้ทรงสำแดง3/4ระกรุณา รม 9.17 เ3/4ราะมีข้อ3/4ระคัมภีร์*ี่กล่าวแก่ฟาโรห์ว่า `เ3/4ราะเหตุนี้เองเราให้เจ้ามีตำแหน่งสูง ก็เ3/4ื่อจะแสดงฤ*ธานุภา3/4ของเราโดยเจ้าและเ3/4ื่อให้นามของเราถูกประกาศออกไปทั่วโลก' รม 9.18 เหตุ(c)ะนั้น3/4ระองค์จะ*รง3/4ระกรุณาแก่1/4ู้ใด ก็จะ*รง3/4ระกรุณา1/4ู้นั้น และ3/4ระองค์จะ*รงให้1/4ู้ใดมีใจแข็งกระด้าง ก็จะ*รงให้1/4ู้นั้นมีใจแข็งกระด้าง รม 9.19 แล้ว*่านก็จะกล่าวแก่ข้า3/4เจ้าว่า "ถ้าเช่นนั้น *ำไม3/4ระองค์จึงยัง*รงติเตียน เ3/4ราะว่า1/4ู้ใดจะขัดขืน3/4ระ*ัยของ3/4ระองค์ได้" รม 9.20 โอ มนุษย์เอ๋ย ดูก่อน *่านคือ1/4ู้ใดเล่าซึ่ง*่านจะโต้ตอบกับ3/4ระเจ้าได้ สิ่งซึ่งถูก*ำขึ้นแล้วนั้นจะกลับว่าแก่1/4ู้*ำได้หรือว่า "*่านได้กระ*ำข้า3/4เจ้าอย่างนี้ทำไม" รม 9.21 ส่วนช่างปั้นหม้อ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาดินก้อนเดียวกันมาปั้นเป็นภาชนะอันมีเกียรติอันหนึ่ง และภาชนะอันไม่มีเกียรติอันหนึ่งหรือ รม 9.22 แล้วถ้าโดยทรงประสงค์จะสำแดงการลง3/4ระอาชญา และ*รงให้ฤ*ธิ์เดชของ3/4ระองค์ปรากฏ 3/4ระเจ้าได้*รงอดกลั้น3/4ระ*ัยไว้ช้านานต่อ1/4ู้เหล่านั้น *ี่เป็นภาชนะอันสมควรแก่3/4ระอาชญา ซึ่งเตรียมไว้สำหรับความ3/4ินาศ รม 9.23 เ3/4ื่อจะได้*รงสำแดงสง่าราศีอันอุดมของ3/4ระองค์แก่บรรดา1/4ู้*ี่เป็นภาชนะแห่ง3/4ระเมตตา ซึ่ง3/4ระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ก่อนให้สมกับสง่าราศี รม 9.24 คือเรา*ั้งหลาย*ี่3/4ระองค์ได้*รงเรียกมาแล้ว มิใช่จากยิว3/4วกเดียว แต่จาก3/4วกต่างชาติด้วย มีชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่เท่านั้นที่จะได้รับความรอด รม 9.25 ดัง*ี่3/4ระองค์ตรัสไว้ใน3/4ระคัมภีร์โฮเซยาว่า `เราจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าเป็นชนชาติของเรา ซึ่งเมื่อก่อนเขาหาได้เป็นชนชาติของเราไม่ และจะเรียกเขาว่าเป็นที่รัก ซึ่งเมื่อก่อนเขาหาได้เป็นที่รักไม่ รม 9.26 และต่อมาในสถาน*ี่ซึ่ง*รงกล่าวแก่เขาว่า "เจ้า*ั้งหลายไม่ใช่ชนชาติของเรา" ใน*ี่นั้นเองเขาจะได้ชื่อว่า เป็นบุตรของ3/4ระเจ้า1/4ู้*รง3/4ระชนม์อยู่' รม 9.27 และ*่านอิสยาห์ได้ร้องประกาศเรื่อง3/4วกอิสราเอลด้วยว่า `แม้3/4วกลูกอิสราเอลจะมากเหมือนเม็ดทรายที่ทะเล แต่คนที่เหลืออยู่เท่านั้นจะรอด รม 9.28 ด้วยว่า3/4ระองค์จะ*รงให้การนั้นสำเร็จ และจะให้สำเร็จโดยเร็ว3/4ลันในความชอบธรรม เ3/4ราะว่าองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าจะ*รงให้การนั้นสำเร็จโดยเร็ว3/4ลันบน3/4ิภ3/4นี้' รม 9.29 และตาม*ี่*่านอิสยาห์ได้กล่าวไว้ก่อนว่า `ถ้าองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าแห่งจอมโยธามิได้ทรงเหลือเชื้อสายไว้ให้เราบ้าง เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์' รม 9.30 ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร จะว่า3/4วกต่างชาติ*ี่ไม่ได้ใ1/2่หาความชอบธรรม ก็ยังได้รับความชอบธรรมคือความชอบธรรมที่เกิดขึ้นโดยความเชื่อ รม 9.31 แต่3/4วกอิสราเอลซึ่งใ1/2่หา3/4ระบัญญัติแห่งความชอบธรรม ก็ยังไม่ได้บรรลุตาม3/4ระบัญญัติแห่งความชอบธรรมนั้น รม 9.32 เ3/4ราะอะไร เ3/4ราะเหตุที่เขามิได้แสวงหาโดยความเชื่อแต่แสวงหาโดยการประ3/4ฤติตาม3/4ระบัญญัติ เขาจึงสะดุดก้อนหินที่ให้สะดุดนั้น รม 9.33 ดัง*ี่มีคำเขียนไว้แล้วว่า `จงดูเถิด เราได้วางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยนซึ่งจะ*ำให้สะดุด และหินก้อนหนึ่งซึ่งจะ*ำให้ล้ม แต่1/4ู้ใด*ี่เชื่อใน3/4ระองค์นั้นก็จะไม่ได้รับความอับอาย' ชนชาติอิสราเอลไม่รู้จักความชอบธรรม รม 10.1 3/4ี่น้อง*ั้งหลาย ความปรารถนาในจิตใจของข้า3/4เจ้าและคำวิงวอนขอต่อ3/4ระเจ้าเ3/4ื่อคนอิสราเอลนั้น คือขอให้เขารอด รม 10.2 ข้า3/4เจ้าเป็น3/4ยานให้เขาว่า เขามีความกระตือรือร้น*ี่จะปรนนิบัติ3/4ระเจ้า แต่หาได้เป็นตามปัญญาไม่ รม 10.3 เ3/4ราะว่าเขาไม่รู้จักความชอบธรรมของ3/4ระเจ้า แต่อุตส่าห์จะตั้งความชอบธรรมของตนขึ้น เขาจึงไม่ได้ยอมอยู่ในความชอบธรรมของ3/4ระเจ้า รม 10.4 เ3/4ราะว่า3/4ระคริสต์*รงเป็นจุดจบของ3/4ระบัญญัติ เ3/4ื่อให้ทุกคนที่มีความเชื่อได้รับความชอบธรรม รม 10.5 โมเสสได้เขียนเรื่องความชอบธรรมซึ่งมี3/4ระบัญญัติเป็นมูลฐานว่า `คนใด*ี่ประ3/4ฤติตามสิ่งเหล่านั้นจะได้ชีวิตโดยการประ3/4ฤตินั้น' ความรอด*ี่*รงให้แก่*ุกคนซึ่งเชื่อใน3/4ระคริสต์ รม 10.6 แต่ความชอบธรรมที่มีความเชื่อเป็นมูลฐานว่าอย่างนี้ว่า "อย่านึกในใจของตัวว่า ใครจะขึ้นไปบนสวรรค์" (คือจะเชิญ3/4ระคริสต์ลงมาจากเบื้องบน) รม 10.7 หรือ "ใครจะลงไปยัง*ี่ลึก" (คือจะเชิญ3/4ระคริสต์ขึ้นมาจากความตายอีก) รม 10.8 แต่ความชอบธรรมนั้นว่าอย่างไร ก็ว่า "ถ้อยคำนั้นอยู่ใกล้ท่าน อยู่ในปากของท่านและอยู่ในใจของท่าน" คือคำแห่งความเชื่อที่เราทั้งหลายประกาศอยู่นั้น รม 10.9 คือว่าถ้า*่านจะรับด้วยปากของ*่านว่า 3/4ระเยซู*รงเป็นองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า และจะเชื่อในจิตใจของ*่านว่า3/4ระเจ้าได้*รงชุบ3/4ระองค์ให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด รม 10.10 ด้วยว่าความเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด รม 10.11 เ3/4ราะมีข้อ3/4ระคัมภีร์ว่า `1/4ู้ใด*ี่เชื่อใน3/4ระองค์นั้นก็จะไม่ได้รับความอับอาย' รม 10.12 เ3/4ราะว่า3/4วกยิวและ3/4วกกรีก ไม่*รงถือว่าต่างกัน ด้วยว่า*รงเป็นองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าองค์เดียวกันของคน*ั้งปวง ซึ่ง*รงโปรดอย่างบริบูรณ์แก่คน*ั้งปวง*ี่*ูลขอต่อ3/4ระองค์ รม 10.13 เ3/4ราะว่า `1/4ู้*ี่จะร้องออก3/4ระนามขององค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าจะรอด' ความสำคัญของ1/4ู้ประกาศข่าวประเสริฐ รม 10.14 แต่1/4ู้*ี่ยังไม่เชื่อใน3/4ระองค์จะ*ูลขอต่อ3/4ระองค์อย่างไรได้ และ1/4ู้*ี่ยังไม่ได้ยินถึง3/4ระองค์จะเชื่อใน3/4ระองค์อย่างไรได้ และเมื่อไม่มี1/4ู้ใดประกาศให้เขาฟัง เขาจะได้ยินอย่างไรได้ รม 10.15 และถ้าไม่มีใครใช้เขาไป เขาจะไปประกาศอย่างไรได้ ตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า `เท้าของคนเหล่านั้นที่ประกาศข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข และประกาศข่าวประเสริฐแห่งสิ่งอันประเสริฐ ก็งามสักเท่าใด' รม 10.16 แต่มิใช่*ุกคนได้เชื่อฟังข่าวประเสริฐนั้น เ3/4ราะอิสยาห์ได้กล่าวไว้ว่า `3/4ระองค์เจ้าข้า ใครเล่าได้เชื่อสิ่งที่เขาได้ยินจากเราทั้งหลาย' รม 10.17 (c)ะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เ3/4ราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เ3/4ราะการประกาศ3/4ระวจนะของ3/4ระเจ้า รม 10.18 ข้า3/4เจ้าถามว่า "เขาทั้งหลายไม่ได้ยินหรือ" เขาได้ยินแล้วจริงๆ `เสียงของ3/4วกเขากระจายออกไป*ั่วแ1/4่นดินโลก และถ้อยคำของ3/4วกเขาประกาศออกไปถึง*ี่สุดปลาย3/4ิภ3/4' รม 10.19 ข้า3/4เจ้าจึงถามว่า "3/4ลอิสราเอลไม่เข้าใจหรือ" ตอนแรกโมเสสกล่าวว่า `เราจะให้เจ้า*ั้งหลายอิจ(c)า1/4ู้ที่ไม่ใช่ชนชาติ เราจะยั่วโทสะเจ้าด้วยประชาชาติที่เขลาชาติหนึ่ง' รม 10.20 แล้วอิสยาห์กล้ากล่าวว่า `คนเหล่านั้น*ี่มิได้แสวงหาเราได้3/4บเรา เราได้ปรากฏแก่คนที่มิได้ถามหาเรา' รม 10.21 แต่*่านได้กล่าวถึง3/4วกอิสราเอลว่า `เรายื่นมือของเราออกตลอดวันต่อชนชาติหนึ่งซึ่งไม่เชื่อฟังและดื้อรั้น' ชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่จะได้รับความรอด รม 11.1 เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้า3/4เจ้าจึงถามว่า "3/4ระเจ้า*รง*อด*ิ้งชนชาติของ3/4ระองค์แล้วหรือ" หามิได้ ข้า3/4เจ้าเองก็เป็นชนชาติอิสราเอล เป็นเชื้อสายของอับราฮัม เป็นตระกูลเบนยามิน รม 11.2 3/4ระเจ้ามิได้*รง*อด*ิ้งชนชาติของ3/4ระองค์นั้น*ี่3/4ระองค์ทรงทราบล่วงหน้าแล้ว *่านไม่รู้เรื่องซึ่งเขียนไว้แล้วใน3/4ระคัมภีร์กล่าวถึง*่านเอลียาห์หรือ *่านได้กล่าวโ*ษ3/4วกอิสราเอลต่อ3/4ระเจ้าว่า รม 11.3 `3/4ระองค์เจ้าข้า 3/4วกเขาได้ฆ่า3/4วกศาสดา3/4ยากรณ์ของ3/4ระองค์ แ*่นบูชาของ3/4ระองค์เขาก็ได้ขุด*ำลายลงเสีย เหลืออยู่แต่ข้า3/4ระองค์คนเดียวและเขาแสวงหาช่อง*าง*ี่จะประหารชีวิตของข้า3/4ระองค์' รม 11.4 แล้ว3/4ระเจ้า*รงตอบ*่านว่าอย่างไร ว่าดังนี้ `เราได้เหลือคนไว้สำหรับเราเจ็ด3/4ันคน ซึ่งเป็น1/4ู้*ี่มิได้น้อมเข่าลงต่อรูป3/4ระบาอัล' รม 11.5 เช่นนั้นแหละบัดนี้ก็ยังมี3/4วก*ี่เหลืออยู่ตาม*ี่ได้*รงเลือกไว้โดย3/4ระคุณ รม 11.6 แต่ถ้าเป็น*าง3/4ระคุณก็หาได้เป็นเ3/4ราะ*างการประ3/4ฤติไม่ (c)ะนั้นแล้ว 3/4ระคุณก็ไม่เป็น3/4ระคุณอีกต่อไป แต่ถ้าเป็น*างการประ3/4ฤติก็หาได้เป็นเ3/4ราะ*าง3/4ระคุณไม่ (c)ะนั้นแล้ว การประ3/4ฤติก็ไม่เป็นการประ3/4ฤติอีกต่อไป ข่าวประเสริฐได้ไปยังคนต่างชาติ รม 11.7 ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไร 3/4วกอิสราเอลไม่3/4บสิ่ง*ี่เขาแสวงหา แต่คน*ี่3/4ระเจ้าได้*รงเลือกไว้นั้นเป็น1/4ู้ได้3/4บ และคนนอกนั้นก็มีใจแข็งกระด้างไป รม 11.8 ตาม*ี่มีคำเขียนไว้แล้วว่า `3/4ระเจ้าได้ทรงประทานใจที่เซื่องซึม ประทานตาที่มองไม่เห็น หูที่ฟังไม่ได้ยินให้แก่เขา จนทุกวันนี้' รม 11.9 ดาวิดทรงกล่าวว่า `ขอให้สำรับของเขากลายเป็นบ่วงแร้ว และเครื่องดัก และเป็นสิ่งให้สะดุด และเป็นสิ่งสนองเขา รม 11.10 ขอให้ตาของเขามืดไปเ3/4ื่อเขาจะได้มองไม่เห็น และให้หลังของเขางอค่อมตลอดไป' รม 11.11 ข้า3/4เจ้าจึงถามว่า "3/4วกอิสราเอลสะดุดจนหกล้มทีเดียวหรือ" หามิได้ แต่การ*ี่เขาละเมิดนั้นเป็นเหตุให้ความรอดแ1/4่มาถึง3/4วกต่างชาติ เ3/4ื่อจะให้3/4วกอิสราเอลมีใจมานะขึ้น รม 11.12 แต่ถ้าการ*ี่3/4วกอิสราเอลละเมิดนั้นเป็นเหตุให้*ั้งโลกบริบูรณ์ และถ้าการ3/4่ายแ3/4้ของเขาเป็นเหตุให้คนต่างชาติบริบูรณ์ เขาจะยิ่งบริบูรณ์มากสักเท่าใด คนต่างชาติควรที่จะรับฟังคำเตือนนั้น รม 11.13 แต่ข้า3/4เจ้ากล่าวแก่3/4วก*่าน*ี่เป็นคนต่างชาติ เ3/4ราะข้า3/4เจ้าเป็นอัครสาวกมายัง3/4วกต่างชาติ ข้า3/4เจ้าจึงยกย่องหน้า*ี่ของข้า3/4เจ้า ชาวอิสราเอลจะได้กลับคืนดีกับ3/4ระเจ้าอีก รม 11.14 เ3/4ื่อด้วยวิธีใดก็ตามข้า3/4เจ้าจะได้เร้าใจ3/4ี่น้องร่วมชาติของข้า3/4เจ้าให้เขาเอาอย่าง เ3/4ื่อให้เขารอดได้บ้าง รม 11.15 เ3/4ราะว่า ถ้าการ*ี่3/4ี่น้องร่วมชาติของข้า3/4เจ้าถูก3/4ระเจ้า*รง*อด*ิ้งเสียแล้วเป็นเหตุให้คน*ั้งโลกกลับคืนดีกับ3/4ระองค์ การ*ี่3/4ระองค์ทรงรับเขากลับมาอีกนั้น ก็เป็นอย่างไร ก็เป็นเหมือนกับว่าเขาได้ตายไปแล้วและกลับฟื้นขึ้นใหม่ รม 11.16 ถ้าแป้งก้อนแรกบริสุทธิ์ ทั้งอ่างก็บริสุทธิ์ด้วย และถ้ารากบริสุทธิ์ กิ่งทั้งหมดก็บริสุทธิ์ด้วย รม 11.17 แต่ถ้า*รงหักกิ่งบางกิ่งออกเสียแล้ว และได้*รงนำ*่าน1/4ู้เป็นกิ่งมะกอกเ*ศป่ามาต่อกิ่งไว้แ*นกิ่งเหล่านั้น เ3/4ื่อให้เข้าเป็นส่วนได้รับน้ำเลี้ยงจากรากต้นมะกอกเทศ รม 11.18 ท่านก็อย่าอวดดีต่อกิ่งเหล่านั้น ถ้าท่านอวดดี ใช่ว่าท่านได้เลี้ยงรากนั้นก็หาไม่ แต่รากต่างหากเลี้ยงท่าน รม 11.19 *่านอาจจะแย้งว่า "กิ่งเหล่านั้นได้*รงหักออกเสียแล้วก็เ3/4ื่อจะได้ต่อกิ่งข้าไว้" รม 11.20 ถูกแล้ว เขาถูกหักออกก็เ3/4ราะเขาไม่เชื่อ แต่*ี่*่านอยู่ได้ก็เ3/4ราะความเชื่อเท่านั้น อย่าเย่อหยิ่งไปเลย แต่จงเกรงกลัว รม 11.21 เ3/4ราะว่าถ้า3/4ระเจ้ามิได้*รงงดโ*ษกิ่งเหล่านั้น*ี่เป็นกิ่งเดิม ก็เกรงว่า3/4ระองค์จะไม่ทรงงดโทษท่านเหมือนกัน รม 11.22 เหตุ(c)ะนั้นจง3/4ิจารณาดู*ั้ง3/4ระเมตตาและความเข้มงวดของ3/4ระเจ้า คือ3/4ระองค์*รงเข้มงวดกับคนเหล่านั้น*ี่หลง1/4ิดไป แต่3/4ระองค์*รง3/4ระเมตตา*่าน ถ้าว่า*่านจะดำรงอยู่ใน3/4ระเมตตานั้นต่อไป มิ(c)ะนั้นก็จะทรงตัดท่านออกเสียด้วย รม 11.23 ส่วนเขาทั้งหลายด้วย ถ้าเขาไม่ดำรงอยู่ในความไม่เชื่อสืบไป เขาก็จะได้รับการต่อกิ่งเข้าไปใหม่ เ3/4ราะว่า3/4ระเจ้าทรงฤทธิ์ที่จะทรงให้เขาต่อกิ่งเข้าอีกได้ รม 11.24 เ3/4ราะว่าถ้า3/4ระเจ้า*รงตัด*่านออกจากต้นมะกอกเ*ศป่าซึ่งเป็นต้นไม้ตามธรรมชาติ และ*รงนำมาต่อกิ่งกับต้นมะกอกเ*ศ3/4ันธุ์ดีซึ่ง1/4ิดธรรมชาติของมันแล้ว การที่จะเอากิ่งเหล่านั้น ซึ่งเป็นกิ่งเดิมมาต่อกิ่งเข้ากับต้นของมันเอง ก็จะง่ายยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด รม 11.25 เหตุ(c)ะนั้น 3/4ี่น้อง*ั้งหลาย ข้า3/4เจ้าไม่อยากให้*่าน*ั้งหลายเขลาในข้อความลึกลับนี้ เกลือกว่า*่านจะอวดรู้ คือเรื่อง*ี่บางคนใน3/4วกอิสราเอลได้มีใจแข็งกระด้างไป จนถึง3/4วกต่างชาติได้เข้ามาครบจำนวน รม 11.26 และเมื่อเป็นดังนั้น 3/4วกอิสราเอล*ั้งปวงก็จะได้รับความรอด ตาม*ี่มีคำเขียนไว้แล้วว่า `3/4ระ1/4ู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาจากเมืองศิโยน และจะทรงกำจัดอธรรมให้สูญสิ้นไปจากยาโคบ รม 11.27 นี่แหละเป็น3/4ันธสัญญาของเรากับเขาทั้งหลาย เมื่อเราจะยกโทษบาปของเขา' รม 11.28 ในเรื่องข่าวประเสริฐนั้น เขาเหล่านั้นก็เป็นศัตรูเ3/4ื่อประโยชน์ของ3/4วก*่าน แต่ถ้าว่าตาม*ี่ได้*รงเลือกไว้ เขา*ั้งหลายก็เป็น*ี่รักเนื่องจากบรร3/4บุรุษของเขา รม 11.29 เ3/4ราะว่า3/4ระเจ้ามิได้*รงกลับ3/4ระทัยในการที่ได้ทรงให้ของประทานและทรงเรียกไว้ รม 11.30 ท่านทั้งหลายเมื่อก่อนมิได้เชื่อ3/4ระเจ้า แต่บัดนี้ได้รับ3/4ระกรุณาเ3/4ราะความไม่เชื่อของ3/4วกเขาเหล่านั้น(c)ันใด รม 11.31 บัดนี้เขาเหล่านั้นก็มิได้เชื่อ เ3/4ื่อว่าเขาจะได้รับ3/4ระกรุณาโดย3/4ระกรุณา*ี่ได้ประ*านแก่*่าน*ั้งหลาย(c)ันนั้น รม 11.32 เ3/4ราะว่า3/4ระเจ้าทรงปล่อยให้คนทุกคนอยู่ในฐานะที่ไม่เชื่อ เ3/4ื่อ3/4ระองค์จะได้*รง3/4ระกรุณาแก่เขาทั้งหลายทุกคน รม 11.33 โอ 3/4ระปัญญาและความรอบรู้ของ3/4ระเจ้านั้นล้ำลึกเ*่าใด ข้อตัดสินของ3/4ระองค์นั้นเหลือ*ี่จะหยั่งรู้ได้ และ*างของ3/4ระองค์ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้ รม 11.34 เ3/4ราะว่า `ใครเล่ารู้จัก3/4ระ*ัยขององค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า หรือใครเล่าเป็น*ี่ปรึกษา3/4ระองค์ รม 11.35 หรือใครเล่าได้ถวายสิ่งหนึ่งสิ่งใดแก่3/4ระองค์ *ี่3/4ระองค์จะต้องประทานตอบแทนให้แก่เขา' รม 11.36 เ3/4ราะสิ่งสาร3/4ัดมาจาก3/4ระองค์ โดย3/4ระองค์และเ3/4ื่อ3/4ระองค์ ขอสง่าราศีจงมีแด่3/4ระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์ เอเมน ร่างกายของคริสเตียนเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต รม 12.1 3/4ี่น้อง*ั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของ3/4ระเจ้า ข้า3/4เจ้าจึงวิงวอน*่าน*ั้งหลายให้ถวายตัวของ*่านแด่3/4ระองค์ เ3/4ื่อเป็นเครื่องบูชา*ี่มีชีวิต อันบริสุ*ธิ์ และเป็น*ี่3/4อ3/4ระ*ัย3/4ระเจ้า ซึ่งเป็นการปรนนิบัติอันสมควรของท่านทั้งหลาย รม 12.2 อย่าประ3/4ฤติตามอย่างชาวโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจเสียใหม่ เ3/4ื่อ*่านจะได้*ราบ3/4ระประสงค์ของ3/4ระเจ้าว่าอะไรดี อะไรเป็น*ี่ชอบ3/4ระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม คริสเตียนทุกคนเป็นอวัยวะของร่างกายเดียวกัน รม 12.3 ข้า3/4เจ้าขอกล่าวแก่ท่านทั้งหลาย*ุกคน โดย3/4ระคุณซึ่ง*รงประ*านแก่ข้า3/4เจ้าแล้วว่า อย่าคิดถือตัวเกิน*ี่ตนควรจะคิดนั้น แต่จงคิดให้ถ่อมสุขุมสมกับขนาดความเชื่อ*ี่3/4ระเจ้าได้ทรงโปรดประทานแก่มนุษย์ทุกคน รม 12.4 เ3/4ราะว่าในร่างกายอันเดียวนั้นเรามีอวัยวะหลายอย่าง และอวัยวะนั้นๆมิได้มีหน้าที่เหมือนกัน(c)ันใด รม 12.5 3/4วกเรา1/4ู้เป็นหลายคนยังเป็นกายอันเดียวใน3/4ระคริสต์ และเป็นอวัยวะแก่กันและกัน(c)ันนั้น รม 12.6 และเรา*ุกคนมีของประ*าน*ี่ต่างกันตาม3/4ระคุณ*ี่ได้*รงประ*านให้แก่เรา คือถ้าเป็นการ3/4ยากรณ์ ก็จง3/4ยากรณ์ตามกำลังของความเชื่อ รม 12.7 ถ้าเป็นการปรนนิบัติก็จงปรนนิบัติ ถ้าเป็นการสั่งสอนก็จงสั่งสอน รม 12.8 ถ้าเป็นการเตือนสติก็จงเตือนสติ ถ้าเป็นการบริจาคก็จงให้โดยเต็มใจ 1/4ู้*ี่ครอบครองก็จงครอบครองด้วยเอาใจใส่ 1/4ู้ที่แสดงความเมตตาก็จงแสดงด้วยใจยินดี คริสเตียนมีความรักและสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน รม 12.9 จงให้ความรักปราศจากมารยา จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี รม 12.10 จงรักกัน(c)ัน3/4ี่น้อง ส่วนการ*ี่ให้เกียรติแก่กันและกันนั้น จงถือว่า1/4ู้อื่นดีกว่าตัว รม 12.11 อย่าเกียจคร้านในการงาน จงมีจิตใจกระตือรือร้น จงปรนนิบัติองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า รม 12.12 จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงอดทนต่อความยากลำบาก จงขะมักเขม้นอธิษฐาน รม 12.13 จงช่วยวิสุทธิชนเมื่อเขาขัดสน จงมีน้ำใจอัธยาศัยไมตรี รม 12.14 จงอวย3/4รแก่คน*ี่ข่มเหง*่าน จงอวย3/4ร อย่าแช่งด่าเลย รม 12.15 จงชื่นชมยินดีกับ1/4ู้*ี่มีความชื่นชมยินดี จงร้องไห้กับ1/4ู้ที่ร้องไห้ รม 12.16 จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าใ1/2่สูง แต่จงถ่อมใจลงมาหาคน*ี่ต่ำต้อย อย่าถือว่าตัว(c)ลาด การปฏิบัติต่อบุคคลภายนอก รม 12.17 อย่า*ำชั่วตอบแ*นชั่วแก่1/4ู้หนึ่ง1/4ู้ใดเลย `แต่จงมุ่งกระทำสิ่งที่ใครๆก็เห็นว่าดี' รม 12.18 ถ้าเป็นได้คือเรื่องที่ขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน รม 12.19 *่าน1/4ู้เป็น*ี่รักของข้า3/4เจ้า อย่า*ำการแก้แค้น แต่จงมอบการนั้นไว้แล้วแต่3/4ระเจ้าจะ*รงลง3/4ระอาชญา เ3/4ราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า `องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าตรัสว่า "การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบสนอง" รม 12.20 เหตุ(c)ะนั้น ถ้าศัตรูของท่านหิว จงให้อาหารเขารับประ*าน ถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม เ3/4ราะว่าการ*ำอย่างนั้นเป็นการสุมถ่าน*ี่ลุกโ3/4ลงไว้บนศีรษะของเขา' รม 12.21 อย่าให้ความชั่วชนะท่านได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี คริสเตียนจงยอมอยู่ใต้การปกครองของ1/4ู้มีอำนาจ รม 13.1 *ุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของ1/4ู้ที่มีอำนาจ เ3/4ราะว่าไม่มีอำนาจใดเลย*ี่มิได้มาจาก3/4ระเจ้า และ1/4ู้*ี่*รงอำนาจนั้น3/4ระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น รม 13.2 เหตุ(c)ะนั้น1/4ู้*ี่ขัดขืนอำนาจนั้นก็ขัดขืน1/4ู้ซึ่ง3/4ระเจ้า*รงแต่งตั้งขึ้น และ1/4ู้*ี่ขัดขืนนั้นจะต้องถูก3/4ิ3/4ากษาลงโทษ รม 13.3 เ3/4ราะว่า1/4ู้ครอบครองนั้นไม่น่ากลัวเลยสำหรับคน*ี่*ำความดี แต่ว่าเป็น*ี่น่ากลัวสำหรับคน*ี่*ำความชั่ว *่านไม่อยากจะกลัว1/4ู้มีอำนาจหรือ ถ้าเช่นนั้นก็จงประ3/4ฤติแต่ความดี แล้ว*่านจะได้รับการสรรเสริญจาก1/4ู้มีอำนาจนั้น รม 13.4 เ3/4ราะว่า1/4ู้ครอบครองนั้นเป็น1/4ู้รับใช้ของ3/4ระเจ้าเ3/4ื่อให้ประโยชน์แก่ท่าน แต่ถ้าท่านทำการชั่วก็จงกลัวเถิด เ3/4ราะว่า1/4ู้ครอบครองนั้นหาได้ถือดาบไว้เ(c)ยๆไม่ *่านเป็น1/4ู้รับใช้ของ3/4ระเจ้า จะเป็น1/4ู้ลง3/4ระอาชญาแ*น3/4ระเจ้าแก่*ุกคน*ี่ประ3/4ฤติชั่ว รม 13.5 เหตุ(c)ะนั้น*่านจะต้องอยู่ในบังคับบัญชา มิใช่เ3/4ราะเกรง3/4ระอาชญาสิ่งเดียว แต่เ3/4ราะจิต*ี่สำนึก1/4ิดและชอบด้วย รม 13.6 เ3/4ราะเหตุ1/4ลอันเดียวกัน*่านจึงได้เสียส่วยสาอากรด้วย เ3/4ราะว่า1/4ู้มีอำนาจนั้นเป็น1/4ู้รับใช้ของ3/4ระเจ้า และปฏิบัติหน้าที่นี้อยู่ รม 13.7 เหตุ(c)ะนั้น*่าน*ั้งหลายจงให้แก่*ุกคนตาม*ี่เขาควรจะได้รับ ส่วยอากรควรจะให้แก่1/4ู้ใด จงให้แก่1/4ู้นั้น ภาษีควรจะให้แก่1/4ู้ใด จงให้แก่1/4ู้นั้น ความยำเกรงควรจะให้แก่1/4ู้ใด จงให้แก่1/4ู้นั้น เกียรติยศควรจะให้แก่1/4ู้ใด จงให้แก่1/4ู้นั้น "เราจะรักเ3/4ื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง" ได้อย่างไร รม 13.8 อย่าเป็นหนี้อะไรใคร นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เ3/4ราะว่า1/4ู้*ี่รักคนอื่นก็*ำให้3/4ระบัญญัติสำเร็จแล้ว รม 13.9 3/4ระบัญญัติกล่าวว่า `อย่าล่วงประเวณี1/4ัวเมียเขา อย่ากระ*ำการฆาตกรรม อย่าลัก*รั3/4ย์ อย่าเป็น3/4ยานเ*็จ อย่าโลภ' *ั้ง3/4ระบัญญัติอื่นๆก็รวมอยู่ในข้อนี้คือ `*่านจงรักเ3/4ื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง' รม 13.10 ความรักไม่*ำอันตรายเ3/4ื่อนบ้านเลย เหตุ(c)ะนั้นความรักจึงเป็นที่ให้3/4ระบัญญัติสำเร็จแล้ว รม 13.11 นอกจากนี้*่านควรจะรู้กาลสมัยว่า บัดนี้เป็นเวลา*ี่เราควรจะตื่นจากหลับแล้ว เ3/4ราะว่าเวลาที่เราจะรอดนั้นใกล้กว่าเวลาที่เราได้เริ่มเชื่อนั้น รม 13.12 กลางคืนล่วงไปมากแล้ว และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้ามา เหตุ(c)ะนั้นเราจงเลิกการกระทำของความมืด และจงสวมเครื่องอาวุธของความสว่าง รม 13.13 เราจงประ3/4ฤติตัวให้เหมาะสมกับเวลากลางวัน มิใช่เลี้ยงเส3/4สุราเมามาย มิใช่หยาบโลนลามก มิใช่วิวาทริษยากัน รม 13.14 แต่*่าน*ั้งหลายจงประดับตัวด้วย3/4ระเยซูคริสต์เจ้า และอย่าจัดเตรียมอะไรไว้บำเรอเนื้อหนัง เ3/4ื่อจะให้สำเร็จตามความปรารถนาของเนื้อหนังนั้น ความรักของคริสเตียนคือต้องยอม*นต่อ1/4ู้ที่มีธรรมเนียมต่างกัน รม 14.1 ส่วนคน*ี่ยังอ่อนในความเชื่อนั้น จงรับเขาไว้ แต่มิใช่เ3/4ื่อให้โต้เถียงกันในเรื่องความเชื่อที่แตกต่างกันนั้น รม 14.2 คนหนึ่งถือว่าจะกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่อีกคนหนึ่ง*ี่ยังอ่อนในความเชื่ออยู่ก็กินแต่1/4ักเท่านั้น รม 14.3 อย่าให้คน*ี่กินนั้นดูหมิ่นคน*ี่ไม่ได้กิน และอย่าให้คน*ี่มิได้กินกล่าวโ*ษคน*ี่ได้กิน เหตุว่า3/4ระเจ้าได้ทรงโปรดรับเขาไว้แล้ว รม 14.4 *่านเป็นใครเล่าจึงกล่าวโ*ษ1/4ู้รับใช้ของคนอื่น 1/4ู้รับใช้คนนั้นจะได้ดีหรือจะล่มจมก็สุดแล้วแต่นายของเขา และเขาก็จะได้ดีแน่นอน เ3/4ราะว่า3/4ระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถให้เขาได้ดีได้ รม 14.5 คนหนึ่งถือว่าวันหนึ่งดีกว่าอีกวันหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งถือว่าทุกวันเหมือนกัน ขอให้ทุกคนมีความแน่ใจในความคิดเห็นของตนเถิด รม 14.6 1/4ู้ที่ถือวันก็ถือเ3/4ื่อถวายเกียรติแด่องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า และ1/4ู้*ี่ไม่ถือวันก็ไม่ถือเ3/4ื่อถวายเกียรติแด่องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า 1/4ู้*ี่กินก็กินเ3/4ื่อถวายเกียรติแด่องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า เ3/4ราะเขาขอบ3/4ระคุณ3/4ระเจ้า และ1/4ู้*ี่มิได้กินก็มิได้กินเ3/4ื่อถวายเกียรติแด่องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า และยังขอบ3/4ระคุณ3/4ระเจ้า รม 14.7 เ3/4ราะใน3/4วกเราไม่มี1/4ู้ใดมีชีวิตอยู่เ3/4ื่อตนเอง1/2่ายเดียว และไม่มี1/4ู้ใดตายเ3/4ื่อตนเอง1/2่ายเดียว รม 14.8 ถ้าเรามีชีวิตอยู่ก็มีชีวิตอยู่เ3/4ื่อองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า และถ้าเราตายก็ตายเ3/4ื่อองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า เหตุ(c)ะนั้นไม่ว่าเรามีชีวิตอยู่หรือตายไปก็ตาม เราก็เป็นคนขององค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า รม 14.9 เ3/4ราะเหตุนี้เอง3/4ระคริสต์จึงได้*รงสิ้น3/4ระชนม์และได้*รงเป็นขึ้นมาและ*รง3/4ระชนม์อีก เ3/4ื่อจะได้เป็นองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของทั้งคนตายและคนเป็น รม 14.10 แต่ตัว*่านเล่า เหตุไ(c)น*่านจึงกล่าวโ*ษ3/4ี่น้องของ*่าน หรือเหตุไ(c)นท่านจึงดูหมิ่น3/4ี่น้องของ*่าน เ3/4ราะว่าเรา*ุกคนต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์3/4ิ3/4ากษาของ3/4ระคริสต์ รม 14.11 เ3/4ราะมีคำเขียนไว้ว่า `องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่า "เรามีชีวิตอยู่(c)ันใด หัวเข่า*ุกหัวเข่าจะต้องคุกกราบลงต่อเรา และลิ้น*ุกลิ้นจะต้องร้องสรรเสริญ3/4ระเจ้า"' รม 14.12 (c)ะนั้นเรา*ุกคนจะต้อง*ูลเรื่องราวของตัวเองต่อ3/4ระเจ้า เ3/4ราะเห็นแก่ความรักคริสเตียนจึงยอมชนะตนเอง รม 14.13 ดังนั้นเราอย่ากล่าวโ*ษกันและกันอีกเลย แต่จงตัดสินใจเสียดีกว่า คืออย่าให้1/4ู้หนึ่ง1/4ู้ใดวางสิ่งซึ่งให้สะดุด หรือสิ่งซึ่งเป็นเหตุให้ล้มลงไว้ต่อหน้า3/4ี่น้อง รม 14.14 ข้า3/4เจ้ารู้และปลงใจเชื่อเป็นแน่ในองค์3/4ระเยซูเจ้าว่า ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด*ี่เป็นมล*ินในตัวเองเลย แต่ถ้า1/4ู้ใดถือว่าสิ่งใดเป็นมลทิน สิ่งนั้นก็เป็นมลทินสำหรับคนนั้น รม 14.15 ถ้า3/4ี่น้องของ*่านไม่สบายใจเ3/4ราะอาหาร*ี่*่านกิน *่านก็ไม่ได้ประ3/4ฤติตามทางแห่งความรักเสียแล้ว 3/4ระคริสต์*รงสิ้น3/4ระชนม์เ3/4ื่อ1/4ู้ใด ก็อย่าให้คนนั้น3/4ินาศเ3/4ราะอาหารที่ท่านกินเลย รม 14.16 (c)ะนั้นอย่าให้การดีของท่านเป็นที่ให้เขาติเตียนได้ รม 14.17 เ3/4ราะว่าอาณาจักรของ3/4ระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุขและความชื่นชมยินดีใน3/4ระวิญญาณบริสุทธิ์ รม 14.18 1/4ู้*ี่ปรนนิบัติ3/4ระคริสต์ในการเหล่านั้นก็เป็น*ี่3/4อ3/4ระ*ัย3/4ระเจ้า และเป็น*ี่3/4อใจของมนุษย์ด้วย รม 14.19 เหตุ(c)ะนั้นให้เรามุ่งประ3/4ฤติในสิ่งซึ่งทำให้เกิดความสงบสุขแก่กันและกัน และสิ่งเหล่านั้นซึ่งทำให้เกิดความเจริญแก่กันและกัน รม 14.20 อย่า*ำลายงานของ3/4ระเจ้าเ3/4ราะเรื่องอาหารเลย *ุกสิ่ง*ุกอย่างปราศจากมล*ินก็จริง แต่1/4ู้ใด*ี่กินอาหารซึ่งเป็นเหตุให้1/4ู้อื่นหลง1/4ิด ก็มีความ1/4ิดด้วย รม 14.21 เป็นการดี*ี่จะไม่กินเนื้อสัตว์หรือดื่มน้ำองุ่นหรือ*ำสิ่งใดๆ*ี่เป็นเหตุให้3/4ี่น้องสะดุด หรือสะดุดใจหรือทำให้อ่อนกำลัง รม 14.22 *่านมีความเชื่อหรือ จงยึดไว้ให้มั่นต่อ3/4ระเจ้า 1/4ู้ใดไม่มีเหตุที่จะติเตียนตัวเองในสิ่งที่ตนเห็นชอบแล้วนั้นก็เป็นสุข รม 14.23 แต่1/4ู้*ี่มีความสงสัยอยู่นั้น ถ้าเขากินก็มีความ1/4ิด เ3/4ราะเขามิได้กินตาม*ี่ตนเชื่อ *ั้งนี้เ3/4ราะการกระทำใดๆที่มิได้เกิดจากความเชื่อก็เป็นบาปทั้งสิ้น จงอด*นในการประ3/4ฤติต่อ3/4ี่น้องที่อ่อนในความเชื่อ รม 15.1 3/4วกเรา*ี่มีความเชื่อเข้มแข็งควรจะอด*นในข้อเคร่งหยุมๆหยิมๆของคน*ี่อ่อนในความเชื่อ และไม่ควรกระ*ำสิ่งใดตามความ3/4อใจของตัวเอง รม 15.2 เรา*ุกคนจงกระ*ำให้เ3/4ื่อนบ้าน3/4อใจ เ3/4ื่อนำประโยชน์และความเจริญมาให้เขา รม 15.3 เ3/4ราะว่า3/4ระคริสต์ก็มิได้*รงกระ*ำสิ่ง*ี่3/4อ3/4ระ*ัย3/4ระองค์ ตาม*ี่มีคำเขียนไว้แล้วว่า `คำ3/4ูดเยาะเย้ยของบรรดา1/4ู้*ี่เยาะเย้ย3/4ระองค์ ตกอยู่แก่ข้า3/4ระองค์' คริสเตียนจงยอมรับซึ่งกันและกัน รม 15.4 เ3/4ราะว่าสิ่งที่เขียนไว้ในสมัยก่อนนั้นก็เขียนไว้เ3/4ื่อสั่งสอนเรา เ3/4ื่อเราจะได้มีความหวังโดยความเ3/4ียรและความชูใจด้วย3/4ระคัมภีร์ รม 15.5 ขอ3/4ระเจ้าแห่งความเ3/4ียรและความชูใจ*รงโปรดช่วยให้*่านมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันตามอย่าง3/4ระเยซูคริสต์ รม 15.6 เ3/4ื่อ*่าน*ั้งหลายจะได้มีใจและปาก3/4ร้อมเ3/4รียงกันสรรเสริญ3/4ระเจ้า 1/4ู้เป็น3/4ระบิดาของ3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา รม 15.7 เหตุ(c)ะนั้นจงต้อนรับกันและกัน เช่นเดียวกับ*ี่3/4ระคริสต์ได้*รงต้อนรับเรา*ั้งหลายเ3/4ื่อ3/4ระเกียรติของ3/4ระเจ้า รม 15.8 เ3/4ราะข้า3/4เจ้าหมายว่า 3/4ระคริสต์ได้*รงรับใช้มายัง3/4วก*ี่เข้าสุหนัตเ3/4ื่อเห็นแก่ความจริงของ3/4ระเจ้า เ3/4ื่อจะ*รงยืนยัน3/4ระสัญญา*ี่ประ*านไว้กับบรรดาบรร3/4บุรุษนั้น รม 15.9 และเ3/4ื่อให้คนต่างชาติได้ถวาย3/4ระเกียรติยศแด่3/4ระเจ้าเ3/4ราะ3/4ระเมตตาของ3/4ระองค์ ตาม*ี่มีคำเขียนไว้แล้วว่า `เ3/4ราะเหตุนี้ข้า3/4ระองค์ขอสรรเสริญ3/4ระองค์ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย และร้องเ3/4ลงสรรเสริญ3/4ระนามของ3/4ระองค์' รม 15.10 และมีคำกล่าวอีกว่า `ประชาชาติ*ั้งหลายเอ๋ย จงชื่นชมยินดีกับประชาชนของ3/4ระองค์' รม 15.11 แล้วยังมีคำกล่าวอีกว่า `ประชาชาติ*ั้งปวงเอ๋ย จงสรรเสริญองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าเถิด และให้ชนชาติ*ั้งหลายยกย่อง3/4ระองค์' รม 15.12 และอิสยาห์กล่าวอีกว่า `รากแห่งเจสซีจะมา คือ1/4ู้จะ*รงบังเกิดมาครอบครองบรรดาประชาชาติ ประชาชาติ*ั้งหลายจะวางใจใน3/4ระองค์' รม 15.13 ขอ3/4ระเจ้าแห่งความหวัง*รงโปรดให้*่านบริบูรณ์ด้วยความชื่นชมยินดีและสันติสุขในความเชื่อ เ3/4ื่อ*่านจะได้เปี่ยมด้วยความหวังโดยฤ*ธิ์เดชแห่ง3/4ระวิญญาณบริสุทธิ์ รม 15.14 3/4ี่น้อง*ั้งหลายของข้า3/4เจ้า ข้า3/4เจ้าเชื่อแน่ว่าท่านบริบูรณ์ด้วยการดีและเปี่ยมด้วยความรู้ทุกอย่าง สามารถเตือนสติกันและกันได้ด้วย การรับใช้ของเปาโลและแ1/4นการเดินทาง รม 15.15 แต่3/4ี่น้อง*ั้งหลาย การ*ี่ข้า3/4เจ้ากล้าเขียนบางเรื่องถึง*่านเ3/4ื่อเตือนความจำของ*่าน ก็เ3/4ราะเหตุ3/4ระคุณ*ี่3/4ระเจ้าได้*รงประ*านแก่ข้า3/4เจ้า รม 15.16 เ3/4ื่อให้ข้า3/4เจ้าเป็น1/4ู้รับใช้ของ3/4ระเยซูคริสต์ไปยังคนต่างชาติ โดยรับใช้1/2่ายข่าวประเสริฐของ3/4ระเจ้า เ3/4ื่อการถวาย3/4วกต่างชาติ*ั้งหลายนั้นจะได้เป็น*ี่ชอบ3/4ระทัย คือเป็นที่แยกตั้งไว้โดย3/4ระวิญญาณบริสุทธิ์ รม 15.17 เหตุ(c)ะนั้นใน3/4ระเยซูคริสต์ข้า3/4เจ้ามีสิ่ง*ี่จะอวดได้1/2่าย3/4ระราชกิจของ3/4ระเจ้า รม 15.18 เ3/4ราะว่าข้า3/4เจ้าไม่กล้าจะอ้างสิ่งใดนอกจากสิ่งซึ่ง3/4ระคริสต์ได้*รงกระ*ำ โดย*รงใช้ข้า3/4เจ้า*างคำสอนและกิจการ เ3/4ื่อจะให้คนต่างชาติเชื่อฟัง รม 15.19 คือด้วยหมายสำคัญและการมหัศจรรย์อัน*รงฤ*ธิ์ ในฤ*ธิ์เดชแห่ง3/4ระวิญญาณของ3/4ระเจ้า จนข้า3/4เจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐของ3/4ระคริสต์อย่างถ้วนถี่ ตั้งแต่กรุงเยรูซาเล็มอ้อมไปยังเมืองอิลลีริคุม รม 15.20 อัน*ี่จริงข้า3/4เจ้าได้ตั้งเป้าไว้อย่างนี้ว่า จะประกาศข่าวประเสริฐในที่ซึ่งไม่เคยมีใครออก3/4ระนาม3/4ระคริสต์มาก่อน เ3/4ื่อข้า3/4เจ้าจะได้ไม่ก่อขึ้นบนรากฐานที่คนอื่นได้วางไว้ก่อนแล้ว รม 15.21 ตาม*ี่มีคำเขียนไว้ว่า `คน*ี่ไม่เคยได้รับคำบอกเล่าเรื่อง3/4ระองค์ก็จะได้เห็น และคนที่ไม่เคยได้ฟังจะได้เข้าใจ' รม 15.22 นี่คือเหตุ*ี่ขัดขวางข้า3/4เจ้าไว้ไม่ให้มาหาท่าน รม 15.23 แต่เดี๋ยวนี้ข้า3/4เจ้าไม่มีกิจ*ี่จะต้องอยู่ในแว่นแคว้นเหล่านี้ต่อไป ข้า3/4เจ้ามีความปรารถนาหลายปีแล้วที่จะมาหาท่าน รม 15.24 เมื่อข้า3/4เจ้าจะไปประเ*ศสเปน ข้า3/4เจ้าจะแวะมาหา*่าน*ั้งหลาย เ3/4ราะข้า3/4เจ้าหวังว่าจะได้3/4บท่านขณะที่ไปตามทางนั้น และเมื่อได้รับความบันเ*ิงใจกับ*่าน*ั้งหลายบ้างแล้ว ข้า3/4เจ้าจะได้ลาท่านไปตามทาง รม 15.25 ขณะนี้ข้า3/4เจ้าจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เ3/4ื่อช่วยสงเคราะห์วิสุทธิชน รม 15.26 เ3/4ราะว่า3/4วกศิษย์ในแคว้นมาซิโดเนียและแคว้นอาคายาเห็นชอบ*ี่จะถวาย*รั3/4ย์ ส่งไปให้แก่วิสุทธิชนที่ยากจนในกรุงเยรูซาเล็ม รม 15.27 3/4วกศิษย์เหล่านั้น3/4อใจ*ี่จะ*ำเช่นนั้นจริงๆและ3/4วกเขาก็เป็นหนี้วิสุ*ธิชนเหล่านั้นด้วย เ3/4ราะว่าถ้าเขาได้รับคนต่างชาติเข้าส่วนในการ1/2่ายจิตวิญญาณ ก็เป็นการสมควร*ี่3/4วกต่างชาตินั้นจะได้ปรนนิบัติศิษย์เหล่านั้นด้วยสิ่งของ1/2่ายเนื้อหนัง รม 15.28 เหตุ(c)ะนั้น เมื่อข้า3/4เจ้าไปส่ง1/4ล*านนั้นมอบให้แก่3/4วกเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้า3/4เจ้าก็จะไปประเ*ศสเปน1/4่านตำบลที่ท่านอยู่นั้น รม 15.29 และข้า3/4เจ้ารู้แน่ว่าเมื่อข้า3/4เจ้ามาหา*่านนั้น ข้า3/4เจ้าจะมา3/4ร้อมด้วย3/4ระ3/4รอันบริบูรณ์ของข่าวประเสริฐแห่ง3/4ระคริสต์ รม 15.30 3/4ี่น้อง*ั้งหลาย โดยเห็นแก่3/4ระเยซูคริสต์เจ้าและโดยเห็นแก่ความรักของ3/4ระวิญญาณ ข้า3/4เจ้าจึงวิงวอนขอให้*่านช่วยอธิษฐาน3/4ระเจ้าด้วยใจร้อนรนเ3/4ื่อข้า3/4เจ้า รม 15.31 เ3/4ื่อให้ข้า3/4เจ้า3/4้นจากมือคนในประเ*ศยูเดีย*ี่ไม่เชื่อ และเ3/4ื่อให้การปรนนิบัติเนื่องด้วย1/4ลทานซึ่งข้า3/4เจ้านำไปยังกรุงเยรูซาเล็มเป็น*ี่3/4อใจของวิสุทธิชน รม 15.32 เ3/4ื่อข้า3/4เจ้าจะได้มาหา*่านตามชอบ3/4ระ*ัย3/4ระเจ้า ด้วยความชื่นชมยินดีและมีความเบิกบานแจ่มใส*ี่ได้3/4บท่าน รม 15.33 บัดนี้ขอ3/4ระเจ้าแห่งสันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด เอเมน การ*ัก*ายต่อเ3/4ื่อนคริสเตียนที่รักยิ่ง รม 16.1 ข้า3/4เจ้าขอ1/2ากน้องสาวของเราไว้กับ*่าน คือเฟบี1/4ู้เป็น1/4ู้รับใช้ในคริสตจักรที่อยู่เมืองเคนเครีย รม 16.2 ขอ*่านรับนางไว้ในองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าตามสมควรแก่วิสุ*ธิชน และขอให้*่านช่วยนางใน*ุกสิ่ง*ี่นางต้องการ เ3/4ราะนางได้ช่วยสงเคราะห์คนหลายคนรวม*ั้งข้า3/4เจ้าด้วย รม 16.3 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังปริสสิลลาและอาควิลลา 1/4ู้ร่วมงานกับข้า3/4เจ้าใน3/4ระเยซูคริสต์ รม 16.4 1/4ู้ซึ่งได้ยอม3/4ลีชีวิตของเขาเ3/4ื่อป้องกันชีวิตของข้า3/4เจ้า ข้า3/4เจ้าขอขอบคุณเขา*ั้งสองและมิใช่ข้า3/4เจ้าคนเดียว แต่คริสตจักร*ุกแห่งของ3/4วกต่างชาติก็ขอบคุณเขาด้วย รม 16.5 และขอ1/2ากความคิดถึงมายังคริสตจักร*ี่อยู่ในบ้านเขาด้วย ขอ1/2ากความคิดถึงมายังเอเปเน*ัส*ี่รักของข้า3/4เจ้า 1/4ู้เป็นคนแรก*ี่เข้ามาเชื่อใน3/4ระคริสต์ในแคว้นอาคายา รม 16.6 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังมารีย์1/4ู้ได้ตรากตรำ*ำงานหนักเ3/4ื่อเราทั้งหลาย รม 16.7 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังอันโดรนิคัสกับยูนีอัส1/4ู้เป็นญาติของข้า3/4เจ้า และได้ถูกจำจองร่วมกับข้า3/4เจ้า เขาเป็นคนมีชื่อเสียงดีในหมู่อัครสาวก *ั้งได้อยู่ใน3/4ระคริสต์ก่อนข้า3/4เจ้าด้วย รม 16.8 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังอัม3/4ลีอัส*ี่รักของข้า3/4เจ้าในองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า รม 16.9 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังอูรบานัส1/4ู้ร่วมงานกับเราใน3/4ระคริสต์ และมายังส*าคิส*ี่รักของข้า3/4เจ้า รม 16.10 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังอาเป็ลเลส1/4ู้เป็น*ี่3/4อ3/4ระ*ัยของ3/4ระคริสต์ ขอ1/2ากความคิดถึงมายังคนในครัวเรือนของอาริสโทบูลัส รม 16.11 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังเฮโรดิโอนญาติของข้า3/4เจ้า ขอ1/2ากความคิดถึงมายังคนในครัวเรือนนารซิสสัส*ี่อยู่ในองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า รม 16.12 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังตรีเฟนาและตรีโฟสา1/4ู้ปฏิบัติงานใน1/2่ายองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า ขอ1/2ากความคิดถึงมายังเปอร์ซิส*ี่รัก1/4ู้ได้ปฏิบัติงานมากมาย1/2่ายองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า รม 16.13 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังรูฟัส1/4ู้*ี่*รงเลือกไว้ใน1/2่ายองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า และมารดาของเขาและมารดาข้า3/4เจ้าด้วย รม 16.14 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังอาสินครี*ัส ฟเลโกน เฮอร์เมส ปั*โรบัส เฮอร์มาส และบรรดา3/4ี่น้องที่อยู่กับเขาเหล่านั้น รม 16.15 ขอ1/2ากความคิดถึงมายังฟีโลโลกัส ยูเลีย และเนเรอัสกับน้องสาวของเขาและโอลิมปัสกับบรรดาวิสุทธิชนที่อยู่กับคนเหล่านั้น รม 16.16 จงต้อนรับกันด้วยธรรมเนียมจุบอันบริสุ*ธิ์ บรรดาคริสตจักรของ3/4ระคริสต์ขอ1/2ากความคิดถึงมายังท่านทั้งหลายด้วย รม 16.17 3/4ี่น้อง*ั้งหลาย ข้า3/4เจ้าจึงขอวิงวอนท่าน ให้สังเกตดูคนเหล่านั้นที่ก่อเหตุ*ะเลาะวิวา*กันและ*ำให้คนอื่นหลงไป ซึ่งเป็นการ1/4ิดคำสอนที่ท่านทั้งหลายได้เรียนมา จงเมินหน้าจากคนเหล่านั้น รม 16.18 เ3/4ราะว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ปรนนิบัติ3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา แต่ได้ปรนนิบัติท้องของตัวเอง และได้ล่อลวงคนซื่อให้หลงด้วยคำดีคำอ่อนหวาน รม 16.19 การซึ่ง*่าน*ั้งหลายได้เชื่อฟังก็เลื่องลือไปถึงคน*ั้งปวงแล้ว ข้า3/4เจ้าจึงมีความยินดีเ3/4ราะ*่าน*ั้งหลาย แต่ข้า3/4เจ้าใคร่ให้*่าน*ั้งหลายเป็นคน(c)ลาด1/2่ายการดี และให้เป็นคนโง่1/2่ายการชั่ว รม 16.20 ไม่ช้า3/4ระเจ้าแห่งสันติสุขจะ*รงปราบซาตานให้ยับเยินลงใต้1/2่าเท้าของ*่าน*ั้งหลาย ขอ3/4ระคุณของ3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเราจงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด เอเมน รม 16.21 *ิโมธี1/4ู้ร่วมงานกับข้า3/4เจ้า ลูสิอัส ยาโสน และโสสิปาเ*อร์ บรรดาญาติของข้า3/4เจ้า 1/2ากความคิดถึงมายังท่านทั้งหลาย รม 16.22 ข้า3/4เจ้าเ*อร์*ีอัส 1/4ู้เขียนจดหมาย(c)บับนี้ ขอ1/2ากความคิดถึงมายัง*่าน*ั้งหลายในองค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้า รม 16.23 กายอัสเจ้าของบ้าน1/4ู้เลี้ยงดูข้า3/4เจ้า และเป็น1/4ู้บำรุงคริสตจักร*ั้งหมด1/2ากความคิดถึงมายัง*่าน เอรัส*ัสสมุหบัญชีของเมือง และควาร*ัสซึ่งเป็น3/4ี่น้อง1/2ากความคิดถึงมายังท่านทั้งหลาย รม 16.24 ขอ3/4ระคุณแห่ง3/4ระเยซูคริสต์องค์3/4ระ1/4ู้เป็นเจ้าของเรา จงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด เอเมน รม 16.25 บัดนี้จงถวาย3/4ระเกียรติแด่3/4ระองค์1/4ู้*รงฤ*ธิ์สามารถให้*่าน*ั้งหลายตั้งมั่นคง ตามข่าวประเสริฐซึ่งข้า3/4เจ้าได้ประกาศนั้น และตาม*ี่ได้ประกาศเรื่อง3/4ระเยซูคริสต์ ตามการเปิดเ1/4ยข้อความอันลึกลับซึ่งได้ปิดบังไว้ตั้งแต่สร้างโลก รม 16.26 แต่มาบัดนี้ได้เปิดเ1/4ยให้ปรากฏแล้ว และโดย3/4ระคัมภีร์ของ3/4วกศาสดา3/4ยากรณ์ ตามซึ่ง3/4ระเจ้า1/4ู้*รงดำรงถาวรได้*รงบัญญัติไว้ ได้เปิดเ1/4ยออกให้3/4ลประเ*ศ*ั้งปวงเห็นแจ้งเ3/4ื่อเขาจะได้เชื่อ รม 16.27 โดย3/4ระเยซูคริสต์ ขอสง่าราศีมีแด่3/4ระเจ้า1/4ู้*รงสั3/43/4ัญญูแต่องค์เดียว สืบๆไปเป็นนิตย์ เอเมน [เขียนถึงชาวโรมจากเมืองโครินธ์ และส่งโดยเฟบี 1/4ู้เป็น1/4ู้รับใช้ในคริสตจักรที่อยู่เมืองเคนเครีย]